

มีรายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา “แพนซี โฮ”บุตรสาวของ”สแตนลีย์ โฮ” หรือชื่อจีน “โฮ ฮัง ซุน” ผู้ก่อตั้งบริษัทเอสเจเอ็ม โฮลดิ้งส์ (SJM Holdings) ผู้ดำเนินการกาสิโนรายใหญ่ในมาเก๊า ว่า บิดาของตนเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงพยาบาลและสถานพักฟื้นฮ่องกง
ก่อนเสียชีวิต นายโฮได้แบ่งอาณาจักรกาสิโนของเขาให้กับสมาชิกในครอบครัวที่ประกอบไปด้วยภรรยา 4 คน และทายาทราว 17 คน ซึ่งรวมถึง “แพนซี โฮ” บุตรสาวคนโตจากภรรยาคนที่สอง
ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานยกย่องมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงว่าเป็น “ผู้ประกอบการที่มีความรักชาติ” เขาผู้มีหลายฉายาเช่น Godfather และ ราชาแห่งธุรกิจการพนัน ได้รับสิทธิผูกขาดประกอบธุรกิจกาสิโนในมาเก๊าแต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่ปี 2504 จนกระทั่งปี 2545 รัฐบาลอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ จนทำให้เงินสะพัดจากแหล่งกาสิโนคิดเป็นราว 80% ของรายได้รายปีของมาเก๊าและแซงหน้ารายได้ของแหล่งกาสิโนในนครลาสเวกัส
ปัจจุบัน บริษัทเอสเจเอ็มของนายโฮซึ่งเป็นเจ้าของกาสิโนราว 19 แห่งในมาเก๊า ยังคงเป็นผู้เล่นรายสำคัญในเขตปกครองพิเศษของจีนแห่งนี้ และอยู่ภายใต้การบริหารโดยนางเดซี โฮ บุตรสาวอีกคนที่นั่งตำแหน่งประธานและผู้อำนวยการบริหารเอสเจเอ็มต่อจากบิดาตั้งแต่ปี 2561
ชีวประวัติ สแตนลีย์ โฮ ถูกตีพิมพ์มาหลายตลอดเวลาในช่วงชีวิตของของถึงการบุกเบิกธุรกิจกาสิโนในมาเก๊า และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ของฮ่องกงมาหลายเรื่อง

เปิดประวัติเจ้าพ่อกาสิโนมาเก๊า
ประวัติของสแตนลีย์ โฮ เป็นเจ้าสัวนักธุรกิจและนักลงทุนผู้มีใจบุญในฮ่องกง – มาเก๊า เขาเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ SJM Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของคาสิโนที่สิบเก้าในมาเก๊ารวมถึง “แกรนด์ ลิสบัว” เขาเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2464
เขา ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าพ่อและราชาแห่งการพนันที่แตกต่างหลากหลายซึ่งเขาผูกขาดในอุตสาหกรรมการพนันมาเก๊าเป็นเวลา 75 ปี ความมั่งคั่งของเขาถูกแบ่งระหว่างลูกสาวของเขา “แพนซี โฮ” ถือครองทรัพย์สินถึง 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เจ้าของกาสิโน MGM มาเก๊า ส่วนภรรยาคนที่สี่ของเขา “แองเจล่าลี หลง” ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ SJM มีทรัพย์สินถึง 4,100 ล้านดอลลาร์) และ ลอเรนซ์โฮ น้องชายคนสุดท้องของ “แพนซี” มีทรัพย์สิน 2,600 ล้านดอลาร์ ซึ่งเป็นเจ้าของกาสิโน City of Dreams
สแตนลี่ โฮยังเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Shun Tak Holdings ซึ่งเขาเป็นเจ้าของธุรกิจหลายประเภทรวมถึงความบันเทิง การท่องเที่ยว ชิปปิ้ง อสังหาริมทรัพย์ การธนาคารและการขนส่งทางอากาศ คาดกันว่าธุรกิจของเขาจ้างแรงงานมาเก๊าเกือบหนึ่งในสี่
นอกเหนือจากฮ่องกงและมาเก๊าแล้วเขายังลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่, โปรตุเกส, เกาหลีเหนือ เขาทำธุรกิจคาสิโนในเวียดนาม, ฟิลิปปินส์, โมซัมบิก, อินโดนีเซียและติมอร์ตะวันออก
เขายังเป็นผู้ประกอบการในเอเชียและดำรงตำแหน่งสำคัญหลายแห่งในหลาย บริษัทในฮ่องกงและมาเก๊า ความคิดเห็นและคำแถลงของเขาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของฮ่องกงมีอิทธิพลอย่างมากในตลาด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขามีส่วนร่วมพัวพันกับ “วินนี่ โฮ” น้องสาวของเขาที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของคาสิโนมาเก๊า หลังจากได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคหลอดเลือดสมองในเดือนกรกฎาคม 2552 ตามมาด้วยการพักฟื้นที่ยาวนาน
ก้าวเข้าสู่ปลายปี 2553 เขาได้มอบหมายธุรกิจให้กับภรรยาและลูก ๆ ของเขา โฮเสียชีวิตในวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ที่โรงพยาบาลและโรงพยาบาลฮ่องกง