

- ส่วนกลุ่มเกษตรกรที่เหลือ 3.4 ล้านคน อยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิ์
- ลั่นทันทีที่ได้รายชื่อมา จะส่งต่อให้ ธ.ก.ส.โอนเงินทันที
- เผยเตรียมจัดทำระบบการตรวจสอบสิทธิ์และอุทธรณ์ไว้แล้ว
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายเงินเยียวยาให้แก่เกษตรกรกลุ่มที่ 1 ซึ่งได้รับตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ชุดแรก3,335,897 รายจนครบ ส่วนชุดที่ 2 อีก 3,437,530 ราย ได้ส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังแล้ว แต่เนื่องจากโครงการเราไม่ทิ้งกันจะปิดวันนี้ (19 พ.ค.) จึงต้องรอปิดโครงการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จึงจะตรวจสอบไม่ให้สิทธิ์ซ้ำซ้อนกัน
“กระทรวงเกษตรฯ ได้วางแผนจะจ่ายเงินให้เกษตรกรชุดที่ 2 เร็วที่สุด เมื่อ สศค.ส่งชื่อกลับมาจะเร่งส่งต่อให้ ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายเงินทันที คาดว่าจะดำเนินการครบประมาณปลายเดือน พ.ค.นี้”
ทั้งนี้ในส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ซึ่งขึ้นและปรับปรุงทะเบียนระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการทำประชาคมว่าทำเกษตรจริงแล้ว ต้องให้กระทรวงการคลังตรวจสอบไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการเราไม่ทิ้งกัน ฐานทะเบียนข้าราชการฐานทะเบียนข้าราชการบำนาญ และฐานทะเบียนประกันสังคม ออกไปก่อน โดยคาดว่าจะจ่ายเงินภายในเดือน พ.ค.นี้เช่นกัน
สำหรับเกษตรกรกลุ่มที่ 3 ซึ่งยังไม่สามารถเพาะปลูกได้ เนื่องจากรอฝน แต่ยื่นแบบ ทบก.01 ซึ่งเป็นคำร้องทะเบียนเกษตรกรภายใน 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงเกษตรฯ กำหนดให้เพาะปลูกภายในวันที่ 30 มิ.ย.63 นั้น จะต้องมีการทำประชาคมและตรวจแปลงยืนยันว่าทำเกษตรจริงก่อนวันที่ 15 ก.ค. จากนั้นคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้จะเสนอ ครม.อนุมัติ โดยคาดว่าจะจ่ายเงินครบภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำระบบการตรวจสอบสิทธิ์และอุทธรณ์ไว้แล้ว โดยเกษตรกรที่สามารถใช้สื่อออนไลน์ได้ให้เข้าใช้งานผ่าน www.moac.go.th ซึ่งได้เพิ่มศักยภาพเซิร์ฟเวอร์ให้รองรับการใช้งานของเกษตรกรจำนวนมากได้ ส่วนเกษตรกรที่ไม่สะดวกใช้สื่อออนไลน์ให้สอบถามจากอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ผู้นำชุมชน สำนักงานเกษตรอำเภอ/จังหวัดที่พร้อมช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกทุกด้าน
นายอนันต์ กล่าว่า มีเกษตรกรหลายรายสงสัยว่าหากเช่าที่ดินเพื่อทำเกษตรกรรมจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ ทั้งนี้หากเกษตรกรนำสัญญาเช่าที่ดินและเอกสารอื่นที่กำหนดไปขึ้น/ปรับปรุงทะเบียนภายใน 15 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งมีการทำประชาคมและตรวจสอบว่าทำเพาะปลูกจริงจะได้รับเงินเยียวยาแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ที่มีข้อกังขาว่าเจ้าของที่ดินจะไปขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรเอง ทำให้ผู้เช่าไม่ได้รับเงินนั้น ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้เนื่องจากระบบการขึ้นทะเบียนเกษตรกร จะต้องมีการทำประชาคม หากตรวจสอบแล้ว พบว่าเจ้าของที่ดินไม่ได้เป็นผู้ทำเกษตรกรรมเอง ก็ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ และไม่มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาแน่นอน