ปลัดคลัง มั่นใจ “คนละครึ่ง” ลงทะเบียนถึง 10 ล้านคนแน่นอน!



  • ม็อบไม่กระทบการจับจ่ายใช้สอย
  • ล่าสุดลงทะเบียนแล้ว 5.88 ล้านคน
  • ร้านค้าเข้าร่วมกว่า 293,297 ร้านค้า

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้จ่ายในประเทศ หรือ คนละครึ่ง นั้น หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ณ วันที่ 19 ต.ค.63 มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จ 5.88 ล้านคน ซึ่งถือเป็นยอดที่น่าพอใจ หลังจากเปิดลงทะเบียนไปแค่ 3 วัน

ส่วนร้านค้านั้นเข้าร่วมมาตรการแล้วจำนวน  293,297  ร้านค้า แบ่งเป็น หาบเร่-แผงลอย  จำนวน 79,046  ร้านค้า ร้านที่มีหน้าร้าน จำนวน 171,367 ร้านค้า และรถเข็น  42,884 ร้านค้า

สำหรับการลงทะเบียนคนละครึ่งที่เริ่มมีผู้ลงทะเบียนช้านั้น นายกฤษฎา กล่าวว่า  ผมขอให้รอดูการลงทะเบียนก่อนสักระยะ วันนี้ยังไม่มีการออกอะไรจูงใจเพิ่มเติม และคาดว่าน่าจะมีผู้ลงทะเบียนครบ 10 ล้านคนตามที่รัฐกำหนดไว้

“ มาตรการที่ออกมาทั้งคนละครึ่งและช้อปดีมีคืน เพื่อรับสิทธิ์หักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30,000 บาทประชาชนสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และการที่ประชาชนลงทะเบียนมาตรการต่างๆ น้อยนั้น ผมถือว่าเป็นเรื่องดี  เพราะเขามีเงินจับจ่ายใช้สอยอยู่แล้ว ไม่ต้องการให้รัฐช่วยเหลือ”

ส่วนกรณีลงทะเบียนคนละครึ่งไปแล้วแต่ไม่ใช้สิทธิ์ภายใน 14 วันจนถูกตัดสิทธิ์ จะสามารถไปเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้หรือไม่นั้น  น่าจะลงทะเบียนใหม่ได้ เพราะตามปกติถ้าไม่ใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน สิทธิ์นั้นจะหายไปเพื่อนำมาเข้าระบบใหม่ และจะไม่มีการขึ้นบัญชีดำประชาชน

ขณะที่กรณีการชุมนุมทางการเมืองในประเทศจะกระทบต่อการใช้จ่ายหรือการลงทะเบียนคนละครึ่งหรือไม่นั้น นายกฤษฎา กล่าวว่า ไม่น่าจะกระทบกับการใช้จ่าย เพราะทุกคนยังต้องดำเนินชีวิตประจำวันอยู่  ส่วนการชุมนุมเกิดขึ้นเพียงพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังกำหนดเงื่อนไขผู้ร่วมลงทะเบียนได้จะต้องมีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งได้รับสิทธิ์จากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประชาชนที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ต่อเนื่องทุกวันในช่วงเวลา 06.00-23.00 น. จนกว่าจะครบ 10 ล้านคน

นอกจากนี้ผู้ที่ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนสำเร็จแล้วจะเริ่มใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.–31 ธ.ค. 2563 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. โดยต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก เช่น ได้รับ SMS ระหว่างวันที่ 16 – 23 ต.ค.2563 ต้องใช้สิทธิ์ภายในวันที่ 5 พ.ย. 2563 เป็นต้น

สำหรับวิธีการใช้จ่ายกับร้านค้า สามารถเติมเงินโดยการโอนเงินของท่านไปยังแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตามต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องโอนครั้งเดียว 3,000 บาท เช่น หากต้องการจ่ายค่าอาหาร 200 บาท ท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 100 บาท เพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า “ถุงเงิน” โดยรัฐจะช่วยจ่ายให้ร้านค้าอีก 100 บาท เป็นต้น โดยรัฐบาลจะร่วมจ่ายไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ