ปรับตัวดีขึ้น… สกนช. เผยครึ่งปี 66 ฐานะกองทุนน้ำมันฟื้นตัวเร็วติดลบลดลง เดือนเม.ย.เหลือ 8.5 หมื่นล้าน



  • เผยช่วงที่เคยติดลบสูงสุด พ.ย.65 อยู่ที่กว่า 1.3 แสนล้านบาท ลดเหลือ 9.4 หมื่นล้านบาท ช่วง มี.ค.66
  • เป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มคลี่คลายราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยรายเดือนลดลง
  • พร้อมดำเนินการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลลง4ครั้งในรอบครึ่งปีช่วยพยุงราคาที่เหมาะสม

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2566 (.. 2565 – มี.. 2566) ว่า อยู่ในเกณฑ์ดี โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น โดยในช่วงต้นปีงบประมาณฯ ฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเคยติดลบสูงสุดเดือนพ..2566 ที่ 130,671 ล้านบาท ได้ทยอยปรับลดลงมา โดยในเดือนมี.. 2566 ติดลบเหลือ 94,471 ล้านบาท และล่าสุด 23 เม.. 2566 ติดลบเหลือ 85,586 ล้านบาท

สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยรายเดือนเฉลี่ยลดลง จากช่วงต้นปีงบประมาณเดือนต.. 2565 อยู่ที่ 91.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดมาเหลือ 78.49 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในเดือนมี.. 2566 ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปดีเซล(Gas Oil) เดือนต.ก็สูงถึง 133.84 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับลดลงมาในเดือนมี.ที่ผ่านมาเหลือ 98.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล” 

นายวิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ภายหลังจากกระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้สามารถดำเนินการกู้ยืมเงินได้ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลง ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มเรียกเก็บเงินเข้าและมีสภาพคล่องมากขึ้น จนสามารถลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไป 4 ครั้ง  ละ 0.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจาก 34.94 บาทต่อลิตร เป็น 32.94 บาทต่อลิตรหรือประมาณ 33 บาทต่อลิตร

ทั้งนี้ ในด้านความคืบหน้าของการกู้ยืมเงินเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ นั้น สกนชได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในการกู้ยืมเป็นจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะของประเทศไปแล้ว 110,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน สกนชทำการกู้ยืมไปแล้ว 30,000 ล้านบาท และในเดือนเม.. 2566 จะทำการกู้ยืมเงินเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยทำการกู้ยืมเงินตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป

ถึงแม้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นแต่ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันยังติดลบอยู่เป็นจำนวนมากประกอบกับความผันผวนของราคาพลังงานตามสถานการณ์ต่างที่เกิดขึ้นเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลุ่มโอเปกพลัสที่ลดกำลังการผลิตการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯความผันผวนของเงินดอลลาร์สหรัฐฯการเปิดประเทศของจีนและความขัดแย้งจากประเทศ และกลุ่มประเทศที่สนับสนุนของฝ่ายรัสเซียและยูเครนทำให้สกนช.ต้องเฝ้าติดตามและคงต้องเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯเพื่อนำมาชำระหนี้อย่างไรก็ตามราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม ไม่เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนจนมากเกินไป ก็จะเป็นสิ่งที่สกนช.จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปเช่นกันผู้อำนวยการสกนช.กล่าว

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 23 เม.. 2566 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 85,586 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 38,749 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 46,837 ล้านบาท