

- เสริมสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนา เพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดี
- โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์
- ก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ – ด่านบูกิตกายูฮิตัม
- จ้างบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ให้ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมาย
วันนี้ (31 มี.ค.65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.ผู้บริหารของ ศอ.บต.และคณะกรรมการ กพต.เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้เห็นชอบทั้งสิ้น 5 โครงการ อันประกอบด้วย
1.โครงการเสริมสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนา เพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2565 – 2570 เพื่อฟื้นฟูและทำนุบำรุงความเป็นพหุสังคมและวัฒนธรรมในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการส่งเสริมกิจการทางศาสนาที่เกี่ยวข้องของทุกศาสนา เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนที่จะได้รับการส่งเสริมให้เข้าถึงหลักการทางศาสนาและนำหลักการทางศาสนาไปสู่การดำเนินชีวิตที่ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
2.โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์ อุโมงค์ใหญ่ “ต้าสวุ่ยต้อ” ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อสร้างพื้นที่การท่องเที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ให้เป็นเมืองแห่งการพึ่งพาตนเองทั้งด้านการท่องเที่ยว อาหาร และเป็นโครงการสำคัญที่จูงใจนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีนที่จะเดินทางเข้ามาเรียนรู้ประสบการณ์การต่อสู้ทางอุดมการณ์ของคนรุ่นก่อนและนำไปสู่การท่องเที่ยวในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
3.โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ – ด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซียเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อเร่งเปิดให้บริการและอำนวยความสะดวกระหว่างด่านพรมแดนระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย
4.โครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย – เนปาล เพื่อส่งเสริมให้คนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และปฏิบัติธรรมและศึกษาแหล่งสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ณ ประเทศอินเดีย – เนปาล ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันตามหลักศาสนาที่ถูกต้อง ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
5. โครงการจ้างบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ให้ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมายและชุมชนเมือง เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการแก้ไขปัญหาและสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยจ้างบัณฑิตอาสาฯ เพิ่มอีกจำนวน 339 คน ให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกหมู่บ้าน และเขตชุมชนเมือง ซึ่งประกอบด้วยหมู่บ้านที่ยังขาดอยู่จำนวน 137 คน และชุมชนเมืองจำนวน 202 คน ซึ่งจะทำให้มีบัณฑิตอาสาฯ รวมทั้งสิ้น 2,458 คน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอเน้นย้ำให้ กพต. และส่วนราชการรับทราบว่า มติที่ประชุมของ กพต.มีความสำคัญและจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ เพราะเป็นเรื่องที่สนองตอบต่อปัญหาและความจำเป็นของประชาชน เป็นเรื่องที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความมั่นคงทั้งทางตรงและทางอ้อม
อย่างไรก็ตาม โครงการที่เป็นไปเพื่อขับเคลื่อน มติ กพต.ไปสู่การปฏิบัติ อาทิ งานปศุสัตว์ เศรษฐกิจฐานราก การท่องเที่ยว การกีฬา เป็นต้น ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ รวมถึงโครงการที่ กพต.มีมติในวันนี้ ก็ต้องจัดหางบประมาณ เพื่อดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งทาง ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะประสานสำนักงบประมาณเพื่อจัดหางบประมาณในปี พ.ศ.2565 ต่อเนื่องถึงปี พ.ศ.2566 และปีต่อไป
“งานนี้หากติดขัดประการใด ศอ.บต.จะเร่งนัดหารือเป็นการเร่งด่วน เพื่อพัฒนาข้อเสนอโครงการเชิงรุกที่เป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหา และความต้องการของประชาชน โดยสร้างการมีส่วนร่วมผู้นำท้องถิ่นท้องที่ และภาคประชาสังคม นำข้อเสนอเหล่านั้น ไปหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติและนำเสนอ กพต.ในการประชุมครั้งต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว