ประชาชนเอ่ยฝากขอบคุณ “บิ๊กตู่” ที่จัดคนละครึ่ง เฟส 2 ให้ “ธนกร” คาดจะมีเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 105,000 ล้านบาท



นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวตนเดินทางไปต่างจังหวัด มีประชาชนฝากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ดำเนินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานรากให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 ผ่านการบริโภคจับจ่ายใช้สอยของประชาชน โดยภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน

ทั้งนี้ เช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ที่แบ่งกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์เป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย ผู้ได้รับสิทธิ์เดิม ไม่เกิน10 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์วงเงินสนับสนุนจากรัฐเพิ่มเติมคนละ 500 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2564 เมื่อรวมกับวงเงินตามสิทธิที่มีอยู่เดิม 3,000 บาท เท่ากับจะมีวงเงินรวม 3,500 บาท สามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 และผู้ลงทะเบียนใหม่ไม่เกิน 5 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์วงเงินสนับสนุนจากรัฐคนละ 3,500 บาท สามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564

“โครงการคนละครึ่ง พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์อย่างมาก ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ได้รับอนุมัติงบประมาณเพิ่ม 22,500 ล้านบาท คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบ 45,000 ล้านบาท โดยโครงการคนละครึ่งทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพิ่ม 0.32% เพราะจะมีเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวม 105,000 ล้านบาท” นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวต่อว่า ในส่วนกรณีที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ระบุโครงการดังกล่าวหละหลวม ไร้การตรวจสอบ ร้านค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาและฮั้วกับผู้ใช้สิทธิ์ นำส่วนต่างมาแบ่งกันนั้น กระทรวงการคลังมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนที่มีการร้องเรียนมายังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคนั้น นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ สคบ. ดำเนินการตรวจสอบทันที

“ขอเตือนว่าโครงการนี้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพราะฉะนั้นของให้ผู้ได้สิทธิ์ และร้านค้าต่างๆ อย่าฉวยโอกาส” นายธนกร กล่าว