บิ๊กททท.ลุยพลิกแผนใหม่ดึง “จีนเที่ยวไทย” ฉลุย มี.ค.66 ปั๊มตลาดบินฤดูหนาวโต 74% บูมลอยกระทง-เคาน์ดาวน์



  • ททท.พลิกแผนใหม่ “รับมือตลาดจีนเที่ยวไทย” คาดฉลุยหลัง มี.ค.66
  • เร่งโกยตลาดใกล้และไกลเสริมทัพ “ที่นั่งเที่ยวบินฤดูหนาว” เข้าไทยทะลุ 570,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ โตกว่า 74 %
  • นำร่องขาย พลังซอฟท์ เพาเวอร์ NFT ธรรมชาติ/อาหาร/วิถีความเป็นไทย ผนวก 2 เทศกาล “ลอยกระทง” พ.ย.กับ“เคาน์ดาวน์” ธ.ค.นี้
  • โหมขาย 2 งานโลก “WTM 2022” 7-9 พ.ย.65 กับ ITB 2023 มี.ค.ปีหน้า

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ปรับกลยุทธ์รับมือนำนักเดินทางจีนเที่ยวไทยปี 2566 ล่าสุดจากประชุมร่วมกับทาง ททท.ในจีน 5 สำนักงานทั้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉินตู เซียะเหมินระบุอาจจะต้องรอการประชุมร่วม 2 สภาของสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศภาพรวมอีกครั้งช่วงเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ททท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีสัญญาณบวกจากรัฐบาลจีนต่อเนื่องมาตลอด 2 ส่วนแรก คือส่วนที่ 1 มาตรการผ่อนคลายเที่ยวบิน ไป-กลับ ระหว่างไทยกับเมืองต่าง ๆ ในจีน ส่วนที่ 2 อนุญาตให้กลุ่มที่มีความจำเป็นอย่างนักเรียน นักศึกษา กลับมาเรียนในไทย กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มประชุมสัมมนา เดินทางได้มาจนถึงปัจจุบัน

ขณะนี้ ททท.ยังคงประเมินตลาดจีนเชิงบวกแนวโน้มตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นไป จีนอาจจะเปิดให้บางเมืองสามารถเดินทางออกต่างประเทศรวมถึงไทยด้วย แต่ระหว่างรอนักท่องเที่ยวจีนกลับมาอีกครั้งนั้น ก็จะต้อง “หาตลาดเสริม” กลุ่มประเทศใกล้แถบอาเซียน เช่น มาเลเซีย มีพรมแดนติดต่อกับไทยขณะนี้เดินทางเข้าออกไทยมากเป็นอันดับ 1 และประเทศอื่น ๆ ก็จะพยายามนำเสนอการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในเมืองไทย  

โดยเฉพาะกลุ่มประเทศระยะไกลบินข้ามทวีป ปลายปี 2565 ตลาดยุโรปจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ตามที่ ททท.ได้พยายามร่วมมือกับสายการบินนานาชาตินำ “ที่นั่งเที่ยวบิน” กลับมาแล้วช่วงตารางบินฤดูหนาวฤดูท่องเที่ยวหนาแน่น(high season) ปลายปี 2565 เป็นต้นไป มีจำนวนมากถึง 570,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้นประมาณ 74 % จากการเปรียบเทียบกับช่วงตารางบินฤดูร้อนระหว่างเมษายน-ปลายตุลาคม 2565 มีเที่ยวบินทั่วโลกเข้าไทยเพียง 300,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ ต่อจากนี้ก็จะต้องเป็นเรื่องการวางกลยุทธ์การตลาดให้เข้มข้นเพื่อจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเที่ยวบินดังกล่าวให้ได้ตามเป้าหมาย

ททท.พร้อมจะนำเสนอเพื่อใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งตลาดระยะใกล้และระยะไกลเบื้องต้น 2 เรื่องหลัก ประกกอบด้วย เรื่องที่ 1 การเดินทางสะดวกสบาย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานเกี่ยวข้องเป็นอย่างดีมาตลอด เรื่องที่ 2 โปรดักซ์เมืองไทยมีความน่าสนใจ เช่น NFT N -Nature หรือธรรมชาติที่กลับมาสวยงามมากกว่าเดิม F-Food อาหาร เดือนพฤศจิกายนนี้จะเปิด “มิชลินไกด์บุ๊คภาคอีสาน” ขอนแก่น นครราชสีมาอุดรธานี อุบลราชธานี จะเป็นแม่เหล็กดึงคนเข้ามาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอีสาน และ T -Thailness จะร้อยเรียงเข้ากับพลัง Soft Power ของประเทศไทย ส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวตามฤดูกาล เทศกาลลอยกระทง เคาน์ดาวน์ปีใหม่ การท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างมวยไทย เทศกาลภาพยนตร์ และอื่น ๆ

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า วางแผนกระตุ้น “ตลาดต่างประเทศเที่ยว” ด้วยแม่เหล็กดึงดูดรายได้จาก 2 เทศกาลใหญ่ได้แก่ เทศกาลแรก “ลอยกระทง”   หนึ่งในซอฟท์ เพาเวอร์ของประเทศไทย ทยอยนำกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาร่วมโปรโมตลอยกระทงสู่สายตาชาวโลก พุ่งเป้าไปยังกลุ่ม Influencer หรือผู้มีอิทธิพลต่อนักท่องเที่ยว ผู้นำทางความคิดกระแสนิยม KOL :Key Opinion Leader รวมทั้งจัดแฟมทริปนำกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาสำรวจสถานที่จัดงานสื่อไปถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

เทศกาลที่ 2 “เคาน์ดาวน์” จะประกาศการกลับมาอีกครั้งของประเทศไทยในปฏิทินโลก ททท.เตรียมทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ขณะนี้กำลังเลือกทำเลเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ทางสถานีโทรทัศน์ระดับโลก CNN เผยแพร่สู่สายตาชาวโลก อาจจะเป็น “วัดอรุณราชวราราม” อีกครั้งหรือไม่ เพราะคนทั่วโลกนิยมภาพดังกล่าว

ส่วนไฮไลต์การนำเอกชนไปร่วมงานขายระดับโลก 2 งาน ได้แก่ งานแรก “WTM -World Travel Mart 2022” ระหว่าง 7-9 พฤศจิกายน 2565 ที่กรุงลอน อังกฤษ ททท.ไทยจะประกาศ 3 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 Visit Thailand Year 2023 ปีท่องเที่ยวไทยต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เรื่องที่ 2 การกลับมาของการท่องเที่ยวไทย New Chapters ไฮไลต์ด้วยการท่องเที่ยว NFT ธรรมชาติ/อาหาร/ความเป็นไทย เรื่องที่ 3 เปิดเทคนิคัลแคมเปญ ภายใต้ชื่อ Amazing Thailand Always Warm เชิญชวนให้ชาวยุโรปเดินทางหนีหนาวมาเที่ยวเมืองไทยอย่างอบอุ่นแทนการใช้พลังงานราคาแพงอยู่ในประเทศของตนเอง

งานที่ 2 Internation Tourismus Borse 2023 หรือ ITB Berlin 2023 ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมันี การจับคู่ซื้อขายการท่องเที่ยวรายการใหญ่สุดของโลก กำหนดจัดทุกปีช่วงเดือนมีนาคม 2565 ททท.จะใช้เวทีนี้ตอกย้ำความสำเร็จปีท่องเที่ยวไทย การกลับมาของการท่องเที่ยวไทย การขยายสู่ตลาดใหม่ ๆ  ซึ่งจะเป็นงานที่สามารถทำตลาดเชิงรุกได้หลายประเทศทั่วภาคพื้นยุโรป ควบคู่กับการสร้างความมั่นใจเพื่อขยายไปยังตลาดตะวันออกกลางด้วย

ส่วน “ปัจจัยเอื้อ” ที่ทำให้การท่องเที่ยวของไทยโดนใจตลาดทั่วโลก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยแรก รัฐบาลประกาศเปิดได้รวดเร็ว ปัจจัยที่ 2 ไทยสามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการสูงได้ครอบคลุมเกือบทุกกลุ่มเป้าหมายซึ่งไม่สามารถเดินทางได้ในช่วง 2-3 ปีผ่านมา ปัจจัยที่ 3 การทำให้จุดขายใหญ่เกิดเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง 2 ส่วนคือ New Chapters แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ และ Experience ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกตลาดเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยตลอดปี 2566 เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท/คน/ทริป ต่อไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen