

- เชื่อการสานสัมพันธ์นี้ ช่วยสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทยกับเกาหลีใต้ กว่า 10 ปี
- ย้ำรัฐบาลพร้อมร่วมมือกับการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ฯ ทุกด้าน
- พร้อมชวนนักลงทุนชาวเกาหลีใต้มาลงทุนในไทย ในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ
วันนี้ (21 เม.ย.65) ทำเนียบรัฐบาล นายมุน ซึง-ฮย็อน เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีกับนายมุน ซึง-ฮย็อน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ ที่มีความใกล้ชิดและมีพลวัตอย่างต่อเนื่องกว่า 60 ปี แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสองประเทศยังคงมีการหารือ และแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน รวมถึงมีการช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หวังว่าทั้งสองประเทศจะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมจากผลกระทบของการแพร่ระบาดควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติหน้าที่เชิงรุกของเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ฯ จะช่วยสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับเกาหลีใต้กว่า 10 ปี ให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยทางรัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ฯ ในทุกด้าน
ด้าน นายมุน ซึง-ฮย็อน ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างกันที่มีความใกล้ชิดและช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดมา โดยเฉพาะความช่วยเหลือในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งชาวเกาหลีใต้ซาบซึ้งและขอบคุณในความช่วยเหลือของไทย
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่ใกล้ชิด ยาวนาน ชาวเกาหลีใต้นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ และชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก ขณะที่ชาวไทยนิยมเรียนภาษาเกาหลีเป็นอันดับหนึ่ง สะท้อนความผูกพันอันใกล้ชิดระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ดี เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ฯ เห็นว่าทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือด้าน Soft Power อาหาร และการกีฬา
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยกับเกาหลีใต้มีความร่วมมือทางการทหารที่ใกล้ชิด ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการขยายความร่วมมือไปสู่ด้านอื่นๆ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายรักษาพลวัตของความร่วมมือ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลเกี่ยวกับการต่อต้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ เนื่องจากมีการประชุมกรอบการหารือทวิภาคีว่าด้วยความมั่นคงทางไซเบอร์กันต่อไป
รวมถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และเศรษฐกิจสีเขียวซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านโมเดล BCG และอุตสาหกรรมเพื่อการเจริญเติบโตสีเขียวในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เชิญชวนให้นักลงทุนชาวเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้นในสาขาที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ โดยไทยจะดูแลและอำนวยความสะดวกการลงทุน ด้านเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ฯ ยินดีสนับสนุน พร้อมประสงค์ให้ไทยพิจารณาส่งเสริมอุตสาหกรรมเฉพาะด้านที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าอย่างชัดเจน และขอให้ไทยพิจารณาให้เกาหลีใต้ตั้งสถาบันการเงินในประเทศด้วย
ส่วนความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชมความสำเร็จของการส่งเสริม Soft Power ของเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศไทยก็มีชื่อเสียงเช่นกัน นายกรัฐมนตรีจึงเห็นว่า ทั้งสองประเทศควรพัฒนาความร่วมมือในสาขานี้ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความแข่งแกร่ง พร้อมทั้งยินดีที่ประชาชนทั้งสองฝ่ายมีความชื่นชอบวัฒนธรรมของกันและกันจะเป็นสะพานเชื่อมและขยายความร่วมมือไปยังสาขาอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองประเทศสามารถจับคู่วัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของกันและกัน รวมถึงการกีฬาที่ทั้งสองมีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
ความร่วมมือภายใต้กรอบอนุภูมิภาคและภูมิภาค นายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทที่สร้างสรรค์ของเกาหลีใต้ผ่านกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง – เกาหลีใต้ (Mekong – ROK Cooperation) กรอบ ACMECS และกรอบอาเซียน – เกาหลีใต้(ASEAN – ROK) ซึ่งไทยพร้อมที่จะร่วมมือและสนับสนุน ทั้งด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเศรษฐกิจสีเขียว
ทั้งนี้ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความยินดีกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดใหม่ส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสีเขียว อุตสาหกรรมแห่งอนาคต และสาธารณสุข พร้อมหวังว่าจะให้การต้อนรับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่กรุงเทพฯ
ด้านเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ฯ กล่าวยังด้วยว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ ความร่วมมือ ตลอดจนพร้อมสนับสนุนบทบาทไทยในการจัดการประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในปีนี้