

- เผยสิ่งสำคัญที่เป็นห่วงคือช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกพื้นที่มีการจัดงานต้องระมัดระวังตัวเอง
- ตัดพ้อประเด็นวัคซีน ชี้มีเพียงพอแต่คนไม่ค่อยอยากมาฉีดกัน น้ำควรฉีดกระตุ้นเข็ม 3
- เสียงแข็ง! ลั่นยังไม่มีมาตรการประกาศ ยกเลิกใส่หน้ากาก
วันนี้ (18 มี.ค.65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ครั้งที่5/2565 ว่า การประชุม ศบค.วันนี้ เป็นเรื่องของการปรับมาตรการปรับสีพื้นที่จังหวัดต่างๆ รวมถึงมาตรการทำอย่างไรให้เกิดการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ซึ่งตอนนี้เราเปิดประเทศแล้ว ก็มีการปรับปรุงมาตรการอยู่หลายอันที่มีรายละเอียดปลีกย่อย
“สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นห่วงช่วงนี้คือ สถานการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกพื้นที่มีการจัดงานต้องระมัดระวังตัวเอง ต้องรับผิดชอบปฏิบัติตามมาตรการในการจัดงานสงกรานต์ ถ้าตรงไหนไม่ปฏิบัติตามต้องถูกปิด ก็ต้องระมัดระวังกันเพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นประเพณีไทยแต่โบราณ ขอให้ฟังมาตรการของศบค.ด้วย และปฏิบัติให้ได้ตามนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับวันนี้สถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศก็พบผู้ติดเชื้อมากกว่าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่มาตรการในการดูแลรักษาของไทยทำได้ดีกว่าเขา ทั้งเรื่องของเตียง ยารักษา ขณะนี้มีจำนวนที่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย
นอกจากนี้เรื่องสำคัญอีกประการคือ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 วันนี้มีวัคซีนเพียงพอเตรียมไว้ถึง 3 ล้านกว่าโดสแต่คนก็ยังไม่ค่อยอยากมาฉีดกัน จึงต้องรณรงค์ให้มาฉีดกันมากขึ้น
“ผมได้สั่งการให้มีการลงไปฉีดในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่จะมีการจัดงานต้องฉีดให้ได้มากที่สุด และให้ระมัดระวังกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว วันนี้มีปัญหาอีกอันคือกลุ่มผู้ที่มีเรื่องโรคไต ที่จะต้องฟอกไต เมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 ก็ไปฟอกไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดจึงมีความเสี่ยงสูง ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขในทุกมิติ โดยจุดนี้เดี๋ยวโฆษกศบค.จะชี้แจง ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการจะปรับให้เป็นโรคประจำถิ่นนั้นเป็นเพียงแผนงาน ถ้าเป็นไปได้สถานการณ์ดีขึ้น ก็จะสามารถเดินไปสู่จุดนั้นได้ ยังไม่ได้หมายความว่าจะทำเลย เขามีขั้นตอนของเขา ถ้าไม่ผ่านตรงนี้ก็เป็นไปไม่ได้เท่านั้นเอง ก็ต้องใช้วิธีการ มาตรการเดิมๆที่เราทำอยู่แล้วให้เข้มงวดขึ้น
ทั้งนี้เมื่อถามว่า ในเรื่องการจัดคอนเสิร์ตสามารถผ่อนคลายได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ให้ไปขออนุญาตให้จัดในที่แจ้ง จำนวนคนเท่าไหร่ก็มีกำหนดไว้อยู่แล้ว แต่การที่จะไปจัดในสถานที่ปิดมิดชิดที่เขายังไม่ให้เปิดก็จัดได้แค่ในลักษณะที่เป็นเหมือนร้านอาหาร
“ไม่กลัวกันหรือไง ไม่กลัวโควิดกันหรืออย่างไร สถานที่แบบนี้เมื่อเข้าไปเราไม่ได้ไปห้ามการแสดงดนตรี ก็ขอแสดงกันในที่ไม่ใช่พื้นที่ปิด ในส่วนพื้นที่เสี่ยงวันนี้ก็ตรวจเจอกันหลายพื้นที่ ก็สั่งการกำชับไปแล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติตามมาตรการสั่งปิดทันที ต้องมีความผิดและรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะทำให้คนเดือดร้อน ขอเตือนแล้วกันถ้าเราไม่อยากจะติดเชื้อ ไม่อยากให้คนในครอบครัวติดเชื้อ ก็ต้องระมัดระวังตัวเองในการใช้ชีวิต ยังคงต้องระวังอยู่ หน้ากากยังคงต้องใส่อยู่ อย่าเพิ่งไปพาดหัวข่าวว่าจะเลิกถอดหน้ากาก เลิกนั่นเลิกนี่ มันยังเลิกไม่ได้ เพราะ มติ ศบค.ยังไม่ออกตรงนี้ ก็พูดกันไปล่วงหน้ากันเอง มันเป็นประเด็นเข้าใจหรือไม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว