

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 เวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง ถึงการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านมาตรการต่างๆเพื่อรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ตนทราบดีและเข้าใจถึงความเดือดร้อนประชาชน เราจึงต้องบริหารให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่ ซึ่งหลายคนเป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจ ขอเรียนว่าไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่ทั่วโลกได้รับผลกระทบทั้งหมด ที่มีสาเหตุมาจากโควิด โดยประเทศไทยได้รับข่าวดีจากบริษัท S&P Moody’s และ Fitch ซึ่งเป็นสถาบันจัดเครดิตแนวหน้าของโลก ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของเรา จากการมีเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง เสถียรภาพและวินัยทางการคลังอยู่ในเกณฑ์ดี ฐานะทางการคลังของประเทศไม่ได้ถังแตกอย่างที่พูดกัน ระดับเงินคงคลังเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค.63 อยู่ที่ 473,000 ล้านบาท มากกว่าปีงบประมาณก่อนถึง 49.6 %
นายกฯ กล่าวว่า หลังจากนี้กระทรวงการคลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเริ่มขยายตัวดีขึ้น เพราะมีสัญญาณบวกจากการได้รับวัคซีนและมาตรการต่างๆที่มีผลปรากฏออกมา เช่น โครงการคนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน และช่วงตรุษจีนมีการใช้จ่ายคึกคัก ร้านค้าสะท้อนว่าได้ประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งและเราชนะ ที่ทำให้ขายของได้สองเท่า สำหรับมาตรการทางเศรษฐกิจต่างๆที่รัฐบาลได้ออกมาตั้งแต่ปี 2563 ทั้งมาตรการเยียวยา มาตรช่วยเหลือเกษตรกร ฯลฯ ล่าสุดข้อมูลวันที่ 3 มี.ค.64 มีผู้ใช้สิทธิ์แล้ว 14.7 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 92,412 ล้านบาท และมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 1,500,000 ร้านค้า ซึ่งตนอยากให้มีมากกว่า 2 ล้านร้านค้า