“บิ๊กตู่” มอบ ศบค. หารือผู้ประกอบการเตรียมมาตรการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่



  • พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เน้นเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง สถานที่เปิดโล่ง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส พร้อมให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.
  • สั่งการติดตามผู้ที่เคยเดินมาจากประเทศที่มีเชื้อโอไมครอนระบาด เข้ามาตรวจคัดกรองอีกครั้ง
  • ยืนยันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ตามแผนเดิมภายในปี 65

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค.64) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบศ.) ครั้งที่ 5/2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีการเตรียมจัดงานเคาท์ดาวน์เทศกาลปีใหม่ โดยได้เร่งรัดให้ ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือร่วมกับผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ภายในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อกำหนดแนวทางการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ที่เหมาะสมและผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมการได้ทัน 

โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้เน้นเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง สถานที่เปิดโล่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส พร้อมให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามตัวผู้ที่เคยเดินทางเข้ามาจากประเทศต้นทางที่มีการแพร่ระบาดของโอไมครอน กลุ่มเสี่ยงสูง เข้ามาตรวจคัดกรองหาเชื้ออีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวในประเทศไทย 

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง กิจการ/กิจกรรม ต่าง ๆ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ต่อไป 

“ทั้งนี้ขอยืนยันการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เดินหน้าตามแผนการภายในปี 2565 โดยต้องพิจารณาถึงความพร้อม สังคมมีความพร้อม มีความมั่นคง บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ไม่มีประเด็นทะเลาะขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกผู้แทนของตนเองที่จะเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ตนเองก็เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และมุ่งมั่นทำงานเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง ให้มีความสงบเรียบร้อย ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง มุ่งแก้ไขปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน และสร้างสิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ตามนโนบาย “พลิกโฉมประเทศไทย” อนาคตจะเป็นอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต