“บิ๊กตู่”เตรียมถกศบค.ชุดใหญ่พรุ่งนี้ จ่อเคาะต่อพรก.ฉุกเฉิน​-เคอร์ฟิว



วันที่ 26 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)​ หรือ​ ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 15 / 2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุมในเวลา 10.30 น. ผ่านระบบการประชุมทางไกล(วีดีโอคอนเฟอเรนซ์)  ในวันที่ 27 ก.ย. นี้ จะเริ่มด้วยเรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และรับรองรายงานการประชุมศบค.ครั้งที่ 14 / 64 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา จากนั้นศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อ โควิด-19 (ศปก.สธ.) จะรายงานสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ, กระทรวงแรงงานรายงานเรื่องการปรับรายละเอียดของโครงการแฟ็คทอรี่แซนด์บ็อกซ์ ระยะที่2 , กระทรวงพลังงานรายงานเรื่องการแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการปฎิบัติตามคำสั่ง ศบค. ฉบับที่ 12 / 2564 กรณีผู้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทางน้ำเพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการปิโตรเลียม

นอกจากนี้​ ศบค.จะพิจารณาความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 14 โดยศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19​ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ (สมช.)  จะเป็นผู้เสนอ, การปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ที่เสนอโดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อ โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขเสนอ, การปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร​ (การปรับลดระยะเวลาในการกักกัน การทำกิจกรรมในสถานที่กักกัน) และหลักเกณฑ์ แผนงานและแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, แผนการให้บริการวัคซีน โควิด-19 ในเดือนต.ค.-ธ.ค.64 และแผนการบริหารจัดการวัคซีน โควิด-19 ปี 65 เสนอโดยศปก.สธ.

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมจะเสนอให้พิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน หรือถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ พร้อมกันนี้ ยังเตรียมเสนอให้เลื่อนการเปิดพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ ในพื้นที่ 5 จังหวัดนำร่อง จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะเปิดในวันที่ 1 ต.ค.เป็นวันที่ 1 พ.ย.แทน

ทั้งนี้ที่ประชุม ศปก.ศบค. ยังเตรียมเสนอให้ผ่อนคลายกิจกรรมที่ถูกสั่งปิด 10 ประเภท ได้แก่ 1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและวัยก่อนเรียน 2. ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดเอกชน ห้องสมุดชุมชน 3. พิพิธภัณฑ์แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน 4. ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หอศิลป์ 5. กีฬาในร่ม ในห้องที่มีระบบปรับอากาศ ฟิตเนส 6. ร้านทำเล็บ 7. ร้านสัก 8. ร้านนวด-สปา เพื่อสุขภาพ 9. ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์ 10. การเล่นดนตรีในร้านอาหาร รวมทั้งปรับเวลาเคอร์ฟิวจากเดิม 21.00-04.00 น. เป็นเวลา 22.00-04.00 น.ซึ่งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สถานที่กลุ่มกีฬากลางแจ้ง ที่ร่มโล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก การซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทยทุกประเภท ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด ขยายเวลาปิดให้บริการในเวลา 21.00 น. จากเดิมคือ 20.00 น.จะเสนอให้พิจารณาปรับเวลาออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวจากเดิม 21.00-04.00 น. ขยับเป็นเวลา 22.00-04.00 น.

อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของการประชุมศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง จะรายงานเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 รวมถึงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของสำนักงาน และศูนย์ปฏิบัติการด้านต่างๆ