

“บิล เกตส์” อดีตซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า การเร่งตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ส่วนใหญ่จะ “สูญเสียอย่างสมบูรณ์แบบ” เพราะใช้เวลานทนเกินไปกว่าที่จะได้ผลตรวจ โดยเขาเชื่อว่าผู้คนจำเป็นต้องได้รับผลตรวจเชื้อที่เร็วขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไม่ให้เอาเชื้อโควิดไปแพร่เชื้อให้คนอื่น”
“สิ่งที่ง่ายที่สุดที่เกี่ยวข้องกับความไร้เหตุผลเช่นนี้คือคุณไม่ควรจ่ายเงินให้ใครบางคนเพื่อรับผลการตรวจเชื้อที่ต้องใช้เวลาเกิน 48 ชั่วโมง” เกตส์กล่าวเมื่อวันอังคาร
“การตรวจนั้นเป็นการสูญเสียและตัวเลขทั้งหมดเหล่าขึ้นอยู่กับจำนวนการตรวจส่วนใหญ่เป็นการสูญเสียที่สมบูรณ์” เขากล่าวเสริมโดยเรียกว่า “insaneหรือไร้เหตุผล” เพื่อจ่ายผลการตรวจเชื้อที่อาจใช้เวลามากกว่า 3 วันและนานถึงหนึ่งสัปดาห์
ทั้งนี้สหรัฐฯ ได้มีการเคลื่อนไหวสำหรับการตรวจเชื้อทั่วประเทศในช่วงต้นขชองการแพร่ระบาด และผู้เชี่ยวชาญระบุว่าระยะเวลาการของการตรวจเชื้อนานจนขัดขวางขีดความสามารถของประเทศที่จะชะลอการแพร่ระบาดให้ช้าลง
Brett Giroir ผู้ช่วยเลขานุการด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐ เห็นด้วยกับ “เกตส์” ว่าการตรวจเชื้อจำเป็นต้องมีการปรับปรุง
“ผมเริ่มต้นด้วยการบอกว่าเราจะไม่มีวันมีความสุขกับการตรวจเชื้อจนกว่าเราจะได้รับเวลาตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมงและผมจะมีความสุขหากทุกจุดตรวจได้ผลตรวจรวดเร็ว พวกเรายังไม่ถึงจุดนั้น พวกเรากำลังทำทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้”
Giroir กล่าวว่าการตรวจเชื้อครึ่งหนึ่งในสหรัฐนั้นดำเนินการในห้องแล็บเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่โดยมีค่าเฉลี่ยการเปลี่ยนแปลงสำหรับผลการการตรวจเชื้อที่ 4.27 วัน โดยกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องปรับปรุงระบบนิเวศของเราอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ “เกตส์” ได้บริจาคเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อการวิจัยการรักษาและวัคซีนต้านไวรัสผ่านมูลนิธของเขา