- “การบินไทย” งัดกลยุทธ์จับมือ “MQDC” ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์
- รุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มนักลงทุนที่อยู่อาศัยคนไทยและต่างชาติ
- นำ ROP ระดับบัตรทองมอบตั๋วบินมูลค่า 3.5 แสนบาท ลูกค้าอสังหาฯ โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์
- เมกะโปรเจ็กต์หรูมูลค่ากว่า 1.25 แสนล้าน ส่วน MQDC แจกสิทธิพิเศษให้ลูกค้าการบินไทย
นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้ประกาศจับมือกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (MQDC) ผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทย พร้อมจะผนึกกำลังกันฟื้นการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง โดยมุ่งพัฒนาการตลาดร่วมกัน 4 ด้าน สร้างประโยชน์ทั้งกับลูกค้า คู่ค้าพันธมิตร ของทั้งสองฝ่าย โดยจะจัดกิจกรรมและงานเทศกาลต่าง ๆ ตลอดปี
ด้วยการผสมผสานจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 เดอะ ฟอเรสเทียส์ : The Forestias by MQDC อันเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความสุข “Happiness Destination” โครงการที่ 2 “The Experience” ของ ROP : Royal Orchid Plus การบินไทย ส่งมอบประสบการณ์ความสุขให้ลูกค้าทุกวัยมีโอกาสเข้ามาร่วมกันทำกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญเรื่องการขยายฐานลูกค้าของทั้งสองบริษัททั้งตลาดคนไทยในต่างประเทศ และต่างชาติที่สนใจลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทาง “การบินไทย” จะมอบตั๋วโดยสารราคาพิเศษ (Corporate Fare) กระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวและลงทุนในไทย ส่วน MQDC จะมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้ลูกค้าโครงการที่เดินทางมากับการบินไทยด้วยอีกทาง
ร่วมมือกันเพิ่มทั้งโอกาสทางธุรกิจ การขยายฐานลูกค้าด้านอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตทั้งตลาดคนไทยตลาดต่างประเทศทั่วเอเชีย และทวีปอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจกระตุ้นการเดินทาง ตอบรับนโยบายการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
ตามแผนการบินไทยกับ MQDC จะร่วมมือกันเปิดตัวแคมเปญการตลาดเริ่มวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2565 เพื่อส่งมอบสิทธิประโยชน์ในรูปแบบ “Time to Gold” ให้สมาชิกระดับบัตรทอง ROP มูลค่า 350,000 บาท ให้ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC ที่ได้วางเงินจองและทำสัญญาตามเงื่อนไขของบริษัทจาก 2 โครงการ ที่ตั้งอยู่ใน The Forestias คือ 1.The Aspen Tree และ 2.Mulberry Grove The Forestias Villas
นายสุวรรธนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) สร้างประโยชน์ทางการตลาด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระดับพรีเมียม พร้อมมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้แก่ลูกค้าของทั้ง 2 บริษัท โดยการบินไทยมุ่งมั่นจะมอบประสบการณ์เดินทางที่แตกต่างเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านประทับใจ มีอัตลักษณ์ไทย พร้อมบริการใหม่ในรูปแบบที่หลากหลายและเทคโนโลยีที่ให้ความสะดวกสบายครบครัน
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ชื่นชอบการเดินทางและมีไลฟ์สไตล์ ลูกค้าของMQDC เป็นลูกค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(MQDC) เปิดเผยว่า MQDC วางกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจบน ‘ความแตกต่าง’ และ ‘สร้างความเปลี่ยนแปลง’ รวมทั้งมีเป้าหมายขับเคลื่อนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน คือ ให้สังคม ความเป็นอยู่ของคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมดีขึ้นหรือ For All Well-Being ความร่วมมือกับการบินไทยพันธมิตรรายสำคัญครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ของ MQDC ได้ตรงตามเป้าหมาย
แคมเปญการตลาดครั้งนี้จะสร้างจุดเด่นทางธุรกิจ นำมาร่วมกันต่อยอดถือเป็นการทำงาน ช่วยทำให้เกิดแรงกระเพื่อมที่น่าสนใจในธุรกิจ และทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังตอบโจทย์ของ MQDC ที่ต้องการมอบสังคมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพให้ผู้พักอาศัยใช้ชีวิตในทุกกิจกรรมได้อย่างมีความสุข ได้รับความสะดวกสบาย ทั้งขณะที่อยู่ในที่พักและนอกที่พัก ได้รับบริการที่ได้มาตรฐานทุกครั้งที่ต้องการเดินทาง
ขณะเดียวกัน ลูกค้าของการบินไทย ก็มีโอกาสเข้าถึงโครงการต่าง ๆ ภายในเดอะฟอเรสเทียส์ ในอนาคตอันใกล้จะมีทั้งแคมเปญและกิจกรรม เรามั่นใจว่าจะสร้างความแตกต่างเข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่องต่อไป
ปัจจุบัน MQDC เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นนำเทคโนโลยีขั้นสูงและงานวิจัยเชิงลึกจากศูนย์วิจัยภายในกลุ่มMQDC รวม 7 แห่ง โดยได้พัฒนาโครงการ 2 แบบ คือ Theme Project และ Mixed Use ช่วงเกิดวิกฤติการณ์โควิด-19 ทาง MQDC สามารถเดินหน้าก่อสร้างและเปิดขายที่พักอาศัย เดอะ ฟอเรสเทียส์” ได้ตามกำหนด เป็นโครงการขนาดใหญ่มีมูลค่าสูงถึง 125,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดี ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า20,000 ล้านบาท
โครงการนี้ยังถือเป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ได้รับการออกแบบครบถ้วนทุกมิติ ตามเป้าหมายสร้างสังคมแห่งความสุขให้ทุกชีวิต บนขนาดพื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7
ทั้งนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมาก เกิดการจ้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมไปกับการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น และที่อยู่อาศัยโดยมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาดรวมในประเทศไทย
เรื่องโดย..#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
