- บางจาก ระดมนักผู้เชี่ยวชาญพลังงานโลกร่วมเวที “Energy Security and Carbon Sequestration”
- เร่งสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และความยั่งยืน
- ผ่านเทคโนโลยีและแนวทางดูดซับคาร์บอนตามธรรมชาติตั้งเป้าสร้างสมดุลปี’73 – เป็นศูนย์ปี’93
กลุ่มบริษัทบางจาก รายงานว่า ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งในระดับโลกและระดับประเทศมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ บนเวทีสัมมนาประจำปีครั้งที่ 12 ภายใต้หัวข้อ “Energy Security and Carbon Sequestration” เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อสร้างโลกยั่งยืนควบคู่กับการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีทั้ง ดร. ปรเมธี วิมลศิริ ประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวปาฐกถา “Sustainable Finance Taxonomy” นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บรรยายพิเศษ “Energy Security and Carbon Sequestration” ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่โลกจะยังต้องพึ่งพาพลังงานฟอสซิลไปอีกระยะ เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วข้ามคืน แต่การดูดซับคาร์บอนทั้งทางธรรมชาติและด้วยเทคโนโลยี จะทำให้พลังงานฟอสซิลสามารถสร้างสมดุลให้กับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานได้
การจัดงานปี 2565 เพื่อสะท้อนความสำคัญด้าน “การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน” ที่กำลังเป็นประเด็นท้าทายที่ทั่วโลกต้องเผชิญแนวโน้มทั่วโลกยังต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจะยังคงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของโลกไปอีกหลายทศวรรษ ถึงเวลาที่มนุษย์ต้องพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาพอากาศ รวมถึงการใช้การดูดซับทางธรรมชาติร่วมสร้างความยั่งยืนให้แก่โลก ควบคู่กันกับการขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและสร้างทางเลือกของแหล่งพลังงานเพื่อความยั่งยืน ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อไปสู่เป้าหมาย Net Zero
กลุ่มบริษัทบางจากได้ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Balancing the Energy Trilemma) ได้แก่ 1.ความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy Security) 2.การเข้าถึงพลังงาน (Energy Affordability) และ 3.ความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการนำพลังงานจากโลกมาใช้ ซึ่งมีผลต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและดูแลโลกใบนี้ให้ยั่งยืน จึงตั้งเป้าหมายสร้างคาร์บอนเป็นศูนย์ Net Zero ภายในปี 2593 เริ่มด้วยการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือ Carbon Neutrality ผ่านแผนงาน BCP 316 NET ให้สำเร็จก่อนภายในปี 2573
อีกทั้งในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านจาก “พลังงานฟอสซิล” ไปสู่ “พลังงานสะอาด” ต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุนมหาศาล รวมถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยมี “Taxonomy” หรือการจัดหมวดหมู่ธุรกิจการลงทุนที่ช่วยลดคาร์บอนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ชวยเร่งให้การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานได้เร็วขึ้น สร้างมูลค่าให้การลงทุนที่จะช่วยให้เกิดการลดคาร์บอน ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนมากขึ้นผ่านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
รวมถึงการกำหนดนโยบายด้านการเงิน เช่น ภาษีคาร์บอน (carbon tax) และการสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิตจะทำให้จัดสรรทรัพยากรโดยภาคเอกชนกันเองของกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมาก เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อคาร์บอนเครดิตชดเชย แล้วนำเงินส่วนนั้นมาพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด ช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอีกทาง
ภายในงานมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมนำเสนอข้อมูลล่าสุดในระดับโลกและประเทศ ดังนี้
หัวข้อแรก “Global Energy Outlook and Energy Transition” โดย Mr. Roberto Bocca, Head of Platform for Shaping the Future of Energy, Materials and Infrastructure, World Economic Forum องค์กรระดับโลกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเรื่องการดำเนินกิจกรรมเพื่อเสนอแนะทิศทางในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาในระดับระหว่างประเทศ
หัวข้อที่ 2 “Gold Hydrogen: Key to Net Zero Economy” โดย Mr. Moji Karimi, Coว-Founder and CEO, Cemvita Factory Inc. สตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกา หัวข้อ “Advancing a Lower Carbon Future with Carbon Capture, Utilization and Storage (CCUS)” โดย Mr. Robert Dobrik, Chief Executive Officer, Star Petroleum Refining Co., Ltd.
หัวข้อที่ 3 “Innovating CO2 Recovery Technology” โดย Mr. Aniruddha Sharma, Co-Founder and CEO, Carbon Clean Solutions Limited สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร และหัวข้อ “Nature-Based Solutions” โดยผู้บริหารจากเชลล์ Ms. Flora Ji Qing, Global Vice President, Nature-Based Solutions
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดสัมมนาสิ่งแวดล้อมเป็นประจำปี เริ่มเมื่อปี 2554 เป็นต้นมา เพื่อสะท้อนให้สาธารณชนเห็นถึงประเด็นด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อมแล้วควรตระหนักและร่วมมือกันแก้ไขหรือพัฒนา ซึ่งทุกภาคส่วนได้ให้ความสนใจป้องกันและแก้ไขร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น เรื่องปัญหาการจัดการขยะ ภัยแล้ง การจัดการน้ำ นวัตกรรม ภาวะโลกร้อน และอื่น ๆ
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
