บอร์ดออมสิน เคาะร่วมทุนธุรกิจบริษัทจำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงิน 1,500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 18% ต่อปี



  • ช่วยรายย่อยจำนำรถรถยนต์-มอไซค์ไม่เกิน 2แสนบาท
  • ลงนามในสัญญาได้ช่วงต้นปี 2564   
  • ไปเป็นตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารออมสิน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ออมสิน ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ธนาคารออมสินดำเนินธุรกิจจำนำทะเบียนรถ ในลักษณะร่วมทุนกับบริษัทลูกที่ทำธุรกิจจำนำทะเบียนรถยนต์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยธนาคารออมสินจะเข้าไปถือหุ้น 49% หรือคิดเป็นเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท

สำหรับเงื่อนไขในการร่วมทำธุรกิจคือ 1.ต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 18% ต่อปี 2.ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ วงเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย ซึ่งจะไม่ครอบคลุมรถยนต์หรู เช่น รถเบนซ์ รถคัมรี่ เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ช่วงต้นปี 2564  ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการตามแผน

“ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่จะร่วมทุนได้​ เนื่องจาก​ต้องรอผลอนุมัติจากบอร์ดของบริษัทดังกล่าวในบ่ายนี้ก่อน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการร่วมลงทุนครั้งนี้ จะส่งผลให้ดอกเบี้ยในตลาดลดลงได้ไม่มากก็น้อย”

ทั้งนี้กระบวนการในการเลือกบริษัทพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมทุนเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารออมสิน ที่ต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มีอัตราสูง  ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเริ่มแรกธนาคารออมสินได้พิจารณาบริษัทที่อยู่ในตลาดจำนำทะเบียนที่อยู่ในระบบทั้งสิ้น 44 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 24 ราย เช่น ไม่เคยมีผลการดำเนินงานขาดทุน และมีทุนจดทะเบียนเกิน 50 ล้านบาท เป็นต้น ตั้งแต่เดือนส.ค. ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นออมสินได้ส่งหนังสือเชิญไปยังบริษัท 24 รายดังกล่าว เพื่อร่วมทำธุรกิจกับธนาคาร ผ่านเงื่อนไขลดดอกเบี้ยเหลือ 18% โดยหลังส่งหนังสือเชิญแล้ว มีบริษัทแสดงความสนใจร่วม 8 ราย ดังนั้นซึ่งธนาคารออมสินตั้งคณะทำงาน 2 คณะ แบ่งเป็น คณะกำหนดเกณฑ์ให้คะแนน และคณะกรรมการให้คะแนน ภายใต้คำปรึกษาของที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ได้คัดเลือกบริษัทได้รับคะแนนจากคณะทำงานที่ดีที่สุดมา 2 อันดับ และเข้าไปวิเคราะห์จนได้บริษัทที่มีความเหมาะสม 1 ราย อย่างไรก็ตามเมื่อได้บริษัทที่คัดเลือกแล้ว ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้ก็ขออนุมัติหลักการการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทดังกล่าว ตามเงื่อนไขที่กำหนด

นอกจากนี้ธนาคารออมสินได้ตั้งที่ปรึกษา 2 ราย เพื่อตรวจสอบกิจการของบริษัทที่ผ่านการคัดเลือก และตั้งธนาคารทหารไทย(ทีเอ็มบี) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อตรวจสอบกิจการตามที่บอร์ดอนุมัติไว้ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากได้ผลการตรวจสอบกิจการจึงได้เสนอให้บอร์ดอนุมัติเพื่อสรุปการร่วมลงทุนอีกครั้ง

“บอร์ดออมสินเลือกวิธีการร่วมลงทุน เนื่องจากมองว่าหากให้ธนาคารออมสินดำเนินธุรกิจเองจะมีความเสี่ยงและเกิดเป็นหนี้เสีย จึงเลือกแนวทางเข้าไปถือหุ้น เช่นเดียวกันกับที่ธนาคารเข้าไปถือหุ้นใน ทิพยประกันภัย เป็นต้น”

ทั้งนี้ กระบวนการทำงานหลังจากผ่านการร่วมทุนดังกล่าว จะต้องใช้สาขาของบริษัทนั้นในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหากในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนมาใช้สาขาของธนาคารออมสินก็จะต้องมีการหารือเพื่อสรุปหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง โดยออมสินก็จะเข้าไปร่วมบริหารด้วย