- ปรับลดเงินสมทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่ม ต.ค.-ธ.ค.65
- ลั่นการลดส่งเงินสมทบจะไม่กระทบต่อกองทุนชราภาพ
- แต่มีผลต่อเม็ดเงินของกองทุนฯ ที่จะนำไปลงทุนสร้างผลกำไรเข้ากองทุนฯ ลดลง 2 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมบอร์ดประกันสังคม มีมติเห็นชอบปรับลดเงินสมทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง จาก 5% เหลือฝ่ายละ 3% เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 2565 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2565 มีมติอนุมัติการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.02% และจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไปนั้น ทางกระทรวงแรงงาน เล็งเห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระนายจ้าง จึงเตรียมมาตรการลดเงินสมทบ มาตรา 33 จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 5% เหลือ 3% ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือน
“การลดส่งเงินสมทบจะไม่กระทบต่อกองทุนชราภาพ แต่จะมีผลต่อเม็ดเงินของกองทุนประกันสังคม ที่สำนักงานประกันสังคม จะนำใช้ไปลงทุนเพื่อสร้างผลกำไรตอบแทนเข้ากองทุนลดลงประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท” นายสุชาติกล่าว
ด้านนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม กล่าวว่า จะนำเรื่องการปรับลดเงินสมทบนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า (20 ก.ย.) เพื่อขอความเห็นชอบต่อไปและให้มีผลบังคับใช้ในเดือน ต.ค.นี้
