บสย.โตก้าวกระโดดท่ามกลางโควิด ยอดค้ำประกันพุ่งแตะ 140,000 ล้านบาท



  • เตรียมมอบของขวัญปีใหม่ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
  • ผ่าน 2 โครงการค้ำประกันสินเชื่อ วงเงินกว่า 175,000 ล้านบาท
  • ตั้งเป้ายอดค้ำประกันปีหน้า 100,000 ล้านบาท​สนต

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน บสย. ปี 2563 ตั้งแต่ ม.ค. ถึง พ.ย. มียอดค้ำประกันสินเชื่อพุ่งแตะ 140,000 ล้านบาท และสามารถช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี(SMEs)​ รายใหม่ได้ 130,000 ราย ซึ่งถือเป็นผลงานสำคัญในรอบ 29 ปี เนื่องจากผลดำเนินงานการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านยอดการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ จำนวนลูกค้าใหม่ และจำนวนการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LG) ของ บสย. ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรสโควิด-19

สำหรับผลดำเนินงาน 2563 เปรียบเทียบกับปี 2562 (ระหว่าง ม.ค.-ต.ค.62-63) ที่เติบโตขึ้นประกอบด้วย 1.ยอดการอนุมัติค้ำการค้ำประกันสินเชื่อ ปี 63 เพิ่มขึ้น 122% จาก 61,392 ล้านบาทเป็น 135,984 ล้านบาท 2.ช่วยผู้ประกอบการSMEs รายใหม่เข้าถึงสินเชื่อ เพิ่มขึ้น 167% จาก47,626 รายเป็น 127,054 ราย และ 3.จำนวนการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LG) เพิ่มขึ้น 174% จาก 61,979 ล้านบาท เป็น 169,959 ล้านบาท

ทั้งนี้ บสย. ยังได้เตรียมความพร้อมการดำเนินแผนงาน เพื่อรองรับการอนุมัติโครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวม 175,000 ล้านบาท คือ 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อระยะที่ 9 หรือ PGS-9 วงเงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้สถาบันเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึงช่วยเหลือลูกค้า SMEs ที่มีปัญหา ภายใต้ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย.SMEs สร้างไทย เฟส 2

และ2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยสร้างอาชีพ (Micro)​ ระยะที่ 4 วงเงิน 25,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ฐานราก กลุ่มอาชีพอิสระ โดยให้ บสย.พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์เยียวยาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

“ขณะนี้ทั้ง 2 โครงการกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา มั่นใจว่ารัฐบาลจะมอบโครงการนี้ให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในเร็ว ๆ นี้”

สำหรับแผนการดำเนินงาน บสย. ในปี 2564 จะมุ่งเน้น 5 ยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับองค์กร สู่ โมเดลธุรกิจแบบใหม่ (New Business Model)​ เพื่อให้องค์กรเติบโตยั่งยืน ได้แก่

1.การผลักดันเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนด้วยการเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อ

2.การสร้างองค์ความรู้และโอกาสทางธุรกิจให้กับ SMEs และรายย่อยด้วยการเป็นเพื่อนคู่คิด

3.การเป็นตัวกลางเชื่อมโยง SMEs และรายย่อยสู่แหล่งทุนที่หลากหลาย

4.การให้สินเชื่อแบบเฉพาะกลุ่ม ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้

และ5.จัดตั้งศูนย์บริการข้อมูล เพื่อสร้างฐานข้อมูล SMEs (SMEs data bank) โดยความร่วมมือกับพันธมิตรในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน

“เป้าหมายการค้ำประกันสินเชื่อในปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท ภายใต้แผนการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อที่หลากหลาย ตอบโจทย์ SMEs ทุกกลุ่ม และการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน รวมถึงการขยายช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านช่องทางนอน แบงก์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงิน”