“นิพิฏฐ์” ห่วงม็อบอย่ามัวแต่ตีหม้อ เตรียมตัวใช้ชีวิตหลังโควิด-19เถอะ



นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า…อย่ามัวแต่ออกไปตีหม้อ เตรียมตัวรับโลกใหม่หลังโควิด-19 กันบ้าง-มิใช่ว่าผมจะต่อต้าน หรือ คัดค้าน การชุมนุมของผู้ชุมนุมที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่ผมมีความเป็นห่วงอยู่หลายประการ

1.จงหลีกเลี่ยงการปะทะกับกฎหมาย ขอให้จดจำประวัติศาสตร์ว่า สำหรับประเทศไทยแล้ว ไม่มีการชุมนุมใดของประชาชนที่ชนะอำนาจของ “รัฏฐาธิปัตย์”ได้เลย ไปดูประวัติศาสตร์เถอะ

2.ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม กำลังจะมาถึงเองตามกาลเวลาแม้ไม่มีการเรียกร้องก็ตาม เช่น ให้นายกฯลาออก แม้ไม่เรียกร้อง อีก 2 ปี นายกฯก็ต้องออกตามวาระอยู่แล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ตรงไหน, อย่างไร ก็ไม่ชัดเจน ถ้าเรียกร้องเพียงตัดอำนาจสว.อีกไม่กี่ปี สว.250 คนก็จะหมด อำนาจตามรัฐธรรมนูญ กลับไปเลี้ยงหลานแล้ว ข้อเรียกร้องนี้ อีก 1 ปี ก็ล้าสมัยแล้ว

3.ถ้าจะพูดถึง สิทธิ-เสรีภาพ ผมว่าคนไทยมีสิทธิ-เสรีภาพไม่น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านของเรา ท่านคิดว่า ประเทศไทยมีสิทธิ เสรีภาพ น้อยกว่าพม่า, น้อยกว่าเวียตนาม,น้อยกว่าลาว,น้อยกว่ากัมพูชา ,น้อยกว่ามาเลเซียหรือ? ตอบในใจก็แล้วกัน เดี๋ยวกระทบเพื่อนบ้าน ผมไม่ตอบคำถามนี้

4.เตรียมตัวใช้ชีวิตหลังโควิด-19 เถอะครับ อย่าว่ากันนะ ที่เอาหม้อ เอาถ้วยโถ โอชาม ไปนั่งตีกันอยู่ในที่ชุมนุม ตีไปก็สนุกดีหรอก แต่ส่วนใหญ่ที่ออกไปตีหม้ออยู่ผมเห็นเป็นคนจนนะ ผมยังไม่เห็นทายาทตระกูล เจียรวนนท์ ของซี.พี., ทายาทกลุ่มภิรมย์ภักดี ,ทายาทกลุ่มสิริวัฒนภักดี ,ทายาทของกลุ่มอยู่วิทยา ออกไปตีหม้ออยู่ในที่ชุมนุมนะ ทายาทตระกูลเหล่านั้นเขาคงดูต้นทุน กำไร อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หรือ กำลังจิบไวน์อยู่บนเครื่องบินส่วนตัวเพื่อบินไปลงทุนอยู่ที่ไหนสักแห่งในต่างประเทศ

ส่วนพวกที่ตีหม้ออยู่ในที่ชุมนุม บางคนหน้ากากอนามัยก็ไม่ใส่ คิดกันหน่อยว่า หลังโควิด-19 โลกจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถึงเวลานั้น จะทำมาหากินอะไร จะออกไปนั่งตีหม้ออยู่ตลอดชีวิตคงไม่ได้นะ

มิใช่ว่า ผมจะแสดงความเห็นโดยไม่รับผิดชอบนะ ผมก็เป็นห่วงอนาคตของเด็กๆเหมือนกัน ถ้าให้ผมเสนอความเห็น ผมก็เสนอว่า”หาพื้นที่ปลอดภัยคุยกันเถอะครับ” ยุติความขัดแย้ง แล้วเตรียมตัวรับโลกใหม่หลังโควิด-19 ดีกว่า ไม่ต้องเชื่อผมทันทีหรอก แต่ลองคิดดูก่อน ปัญหาประเทศไทย ที่หนักที่สุด คือปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวย กับ คนจน คิดแก้ปัญหานี้เถอะครับ ตีโจทย์ให้แตกนะครับ ตั้งโจทย์ผิดก็เหมือนติดกระดุมเม็ดแรกผิด ไม่ต้องถามว่าเม็ดสุดท้ายถูกหรือเปล่า