

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย.2563) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การตัดสินใจเลือก นายก อบจ.” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3 – 5 พ.ย. 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ (ยกเว้น กรุงเทพมหานคร) รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,312 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง เพื่อเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และ สมาชิกสภา อบจ. ในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 โดยการสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ 97.0%
ทั้งนี้จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงการไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และ สมาชิกสภา อบจ. ในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ 80.03% ระบุว่า ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง ขณะที่ 15.09% ระบุว่า ไม่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง และ 4.88% ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าจะไปหรือไม่ และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจได้เวลาเลือก นายก อบจ. เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2563 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง และไม่แน่ใจว่าจะไปหรือไม่ มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า ไม่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ในส่วนด้านประเด็นสถานการณ์การเมืองระดับประเทศในปัจจุบัน กับการมีผลต่อการตัดสินใจเลือก นายก อบจ. พบว่า ผู้ที่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงและไม่แน่ใจว่าจะไป 20.20% ระบุว่า มีผลมากต่อการตัดสินใจ เพราะจากสถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ ทำให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายว่าจะเลือกคนไหน ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะไม่เลือกบุคคลที่มาจากฝ่ายรัฐบาล
17.68% ระบุว่า ค่อนข้างมีผลต่อการตัดสินใจ เพราะ ต้องดูก่อนว่าบุคคลที่จะเลือกมีส่วนเกี่ยวข้องกับใคร ที่อยู่ในประเด็นสถานการณ์การเมืองตอนนี้หรือไม่ ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะเลือกบุคคลที่สังกัดพรรคที่ตนเองชื่นชอบ
9.43% ระบุว่า ไม่ค่อยมีผลต่อการตัดสินใจ เพราะ สถานการณ์การเมืองตอนนี้ไม่ได้กระทบต่อการเลือกตั้ง นายก อบจ. เนื่องจากเป็น การเลือกตั้งแบบท้องถิ่น ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองระดับประเทศอยู่แล้ว
52.06% ระบุว่า ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลย เพราะ การชุมนุมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง นายก อบจ. ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นการเลือกตั้งเพื่อเข้ามาทำงานให้กับระดับจังหวัด ไม่เกี่ยวกับระดับประเทศ และ 0.63% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับการตัดสินใจของประชาชนในการเลือก นายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ. ที่สังกัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเดียวกัน พบว่า ผู้ที่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงและไม่แน่ใจว่าจะไปส่วนใหญ่ 52.06% ระบุว่า ไม่เลือกที่สังกัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเดียวกัน เพราะ ดูที่ตัวบุคคล นโยบาย ความสามารถ ประสบการณ์ และผลงานการทำงานที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชอบแบบไม่สังกัดพรรค
28.19% ระบุว่า เลือกที่สังกัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเดียวกัน เพราะ ง่ายต่อการทำงาน การดำเนินงานหรือการเสนองบต่าง ๆ มีความสะดวก รวดเร็ว ไม่มีความขัดแย้ง และ 19.75% ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไร
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความต้องการของประชาชนต่อการเปลี่ยน นายก อบจ. ในเขตจังหวัด พบว่า ผู้ที่ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงและ ไม่แน่ใจว่าจะไปส่วนใหญ่ 47.31% ระบุว่า อยากเปลี่ยนนายก อบจ. รองลงมา 32.40% ระบุว่า ไม่อยากเปลี่ยนนายก อบจ. , 19.30% ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และ 0.99% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจได้เวลาเลือก นายก อบจ. เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2563 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ไม่อยากเปลี่ยนนายก อบจ. มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า อยากเปลี่ยนนายก อบจ. และยังไม่แน่ใจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น