

- ภูเก็ตซบเซาปีนี้สูญรายได้ 2 – 3 แสนล้านบาท
- มี ALSQ พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,900 ห้อง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) โดยนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธมีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาข้อเสนอของเอกชนจัดตั้งกองทุนเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งต้องไปหารือว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไร แต่ถ้ามีการตั้งขึ้นมาคงไม่ได้ช่วยเฉพาะในพื้นที่อันดามัน จะต้องช่วยทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้เท่าเทียมกัน

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต ได้ประเมินว่าผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในปีนี้ประมาณ 200,000-300,000 ล้านบาท โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ตอยู่ที่ 150,000 ล้านบาทเท่านั้น เทียบจากตลอดปี2562 มีรายได้อยู่ที่ 470,000 ล้านบาท กระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและแรงงานในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เช่น รถตู้ที่มีรายได้จากการรับส่งนักท่องเที่ยวปัจจุบันก็ไม่มีรายได้พอไปจ่ายค่างวดกับไฟแนนซ์ทำให้รถถูกยึดและมีค่าใช้จ่ายจากค่าปรับต่างๆเป็นภาระให้กับผู้ประกอบการ จึงได้เสนอกับรัฐบาลว่าขอให้มีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน เช่นการพักหนี้ หรือยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป
ส่วนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยตรงเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตตนมองว่าภูเก็ตมีความพร้อม และสามารถที่จะรองรับได้โดยปัจจุบันมีห้องพักที่เป็นสถานกักตัวทางเลือก (ALSQ) ถึงประมาณ 1,900 ห้องที่พร้อมให้บริการถือว่ามากสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก กทม.
“คนภูเก็ตอาจจะมีความกังวลบ้าง แต่เราเข้าใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเปิดรับเพราะเราพึ่งพาการท่องเที่ยวกว่า 90% ส่วนการลดระยะเวลาการกักตัว ก็ให้เป็นทางการแพทย์เป็นคนตัดสินจะชัดเจนกว่า เพื่อที่จะเป็นหลักปฏิบัติที่ชัดเจนว่าจะเหลือ 10 วันหรือ 7 วัน หรือน้อยกว่านั้น ก็ให้เป็นการประกาศที่ชัดเจน”
นายนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ข้อเสนอ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อขอรับการสนับสนุน จากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน 6 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้านการท่องเที่ยว ด้านการเกษตร ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ต้องการให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้เกิด การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมการจัดงานการประชุมสัมมนา และการแสดงสินค้าภายในประเทศ (MICE) การเสนอให้พิจารณาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเหลือ 2% สำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี ขอให้พิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การเข้าถึงมาตรการสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ของธนาคารแห่งประเทศไทย และขอให้พิจารณาจัดตั้งกองทุนเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นต้น