

- สหภาพ-พนักงานทุกคน ต้องร่วมมือกัน มิงั้นไปต่อไม่ได้
- 5 ปีแล้วก็ยังไม่สำเร็จ
- คลัง ยังไม่นำเสนอแผนฟื้นฟูเข้าครม.รอให้มีความชัดเจน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าถึงแผนฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)ที่จะเสนอมาหลังจากใช้เวลามานานหลายปีพอสมควร และครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่รัฐบาลจะดูแล ไม่ให้แย่ไปกว่านี้ เพราะฐานะการบินไทยค่อนข้างยากที่จะมีการปรับทั้งในองค์กร บุคลากรปรับโครงสร้างต่างๆทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการ ผู้บริหารและสหภาพแรงงาน ทุกคนต้องร่วมมือกัน ถ้ายังคงไม่ปฏิบัติตามเดิม จะเกิดปัญหา และลำบากไปกว่านี้ เมื่อถึงเวลาก็มีกฎหมายทุกตัว เมื่อเข้าเกณฑ์ตรงนั้นก็ต้องไปตรงนั้น รัฐบาลก็เข้าไปดูแลไม่ได้นี้คือส่ิงที่เป็นเหตุผลและความจำเป็น
นายกฯ กล่าวว่า แผนฟื้นฟูของการบินไทยมีราว 10 ประการที่จะต้องทำให้ได้ ฉะนั้นการที่จะให้เงินกู้หรืออะ ไรต่างๆไปไม่ใช่ให้ไปแล้วใช้จนหมด แล้วทุกอย่างก็ยังเป็นเหมือนเดิม ฉะนั้น ครั้งนี้ท่านต้องปรับโครงสร้างทั้งหมด ตนก็ไม่ได้อย่างไปก้าวล่วงอำนาจของใครทั้งสิ้น เพราะมันมีกฎหมายของท่านอยู่ วันนี้ต้องหามาตรการที่มีความเหมาะสม ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจที่มีหลายส่วนเกี่ยวข้องกับการบินเหล่านี้ ก็ขอให้ติดตามความก้าวหน้าต่อไป วันนี้ยังไม่นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตนพยายามให้ชี้แจงให้เกิดความชัดเจน แต่ส่ิงสำคัญที่สุดคือความร่วมมือ ขอร้องบรรดาลูกจ้าง พนักงานของการบินไทยทุกคนต้องร่วมมือกัน ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้แน่นอน และมีเหตุผลความจำเป็นต้องมีการบินไทยอยู่ ทั้งในเรื่องของการขายตั๋ว การตั้งตำแหน่งต่างๆ การลดรายจ่ายที่เกินความจำเป็น ต้องนี้ต้องนำมาแก้ไขทั้งหมด
“ผมให้เวลาไปแก้ไข 5 ปีแล้วก็ยังไม่สำเร็จ ฉะนั้นครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย ที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการให้ได้ตามนั้นก็ต้องขอความร่วมมือจากบรรดาสหภาพต่างๆด้วย เพราะนั้นคือความเป็นความตายของท่าน อันนี้ก็ขอฝากไว้ด้วยและขอทำความเข้าใจด้วย“
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่แผนฟื้นฟูของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของครม. เพราะมติคนร.ยังไม่ได้มีการจัดส่งมายังกระ ทรวงคมนาคม ขณะเดียวกันทางกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับปรุงแผนฟื้นฟูการบินไทย ให้มีความชัดเจนมาขึ้นให้เป็นลักษณะของแผนปฎิบัติการ (action plan)ที่จะนำไปสู่การปฎิบัติได้จริง โดยได้มอบหมายให้ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและะแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) ร่วมกันดูในรายละเอียดที่มีการปรับปรุง ก่อนจะมีการนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมสรุปผลอย่างเป็นทางการก่อนเข้า ครม. อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับแผนฟื้นฟูของการบินไทยนั้น จะพบว่า แผนดังกล่าวยังไม่มีเรื่องของการสร้างรายได้ ,การบริหารหนี้, แผนรายจ่ายที่จะต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้เห็นภาพที่ชัดเจน ขณะเดียวกันตามยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินการทุกแผนของการบินไทย ระบุว่ามีความเสี่ยงในขณะปฎิบัติงาน ดังนั้นจึงทำให้มีข้อกังวลว่าหากแผนมีการดำเนินการและเกิดความเสี่ยงขึ้น การที่ภาครัฐบาลจะใส่เม็ดเงินเข้าไปช่วยเหลือ ที่จะมีขึ้นในอนาคตก็จะมีความเสี่ยงไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นในแผนฟื้นฟูที่การบินไทยทำ ไม่มีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิดที่เกิดขึ้น ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างไรบ้าง และไม่มีการประเมินเปรียบเทียบ หรือ ระยะเวลา หากการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด จบที่เดือนไหน ต้องใช้เงินในการฟื้นฟูเท่าไหร่ อย่างไร หรือ หากการแพร่ระบาดแล้วเสร็จการบินไทย จะมีแผนการสร้างรายได้จากธุรกิจที่มีอยู่ หรือ จัดตั้งเป็นหน่วยธุรกิจ และจะมีแผนหาพันธมิตรที่จะมาร่วมดำเนินการเพื่อต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ซึ่งแผนที่ทำมาทั้งหมดเห็นได้ชัดว่าไม่มีความชัดเจน ที่จะแก้ไขปัญหาและสร้างรายได้ให้กลับมา
ส่วนนายอุตตม สาวนายก รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้นำแผนฟื้นฟูกิจการชองการบินไทย เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เพราะขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการของกระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคม ส่วนวง เงินกู้ที่ต้องการใช้เงินอีก 50,000 ล้านบาทนั้น เป็นความต้องการใช้เงินของการบินไทย ไม่ใช่ตัวเลขที่กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า กระทรวงการคลังทำเพื่อฟื้นฟูกิจการการบินไทยอย่างรอบคอบ มีประสิทธิภาพ และเห็นผลอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการจำหน่ายตั๋วผู้โดยสาร การดูแลบุคคลกร และการจัดซื้อจัดจ้างเป็นต้น กระทรวงการคลังไม่ได้เข้าไปแตะต้อง เพราะประเด็นเหล่านี้ บริษัท การบินไทยจะต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วย