นายกฯ ย้ำปราบปรามมาเฟีย-สั่งเข้มความปลอดภัยฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน



นายกฯ ย้ำปราบปรามมาเฟีย-สั่งเข้มความปลอดภัยรับฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน เชื่อช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

  • เชื่อช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
  • ให้สามารถฟื้นตัว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมด้วย ที่บ้านพิษณุโลก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางการทำงาน 2 เรื่อง คือ ด้านการท่องเที่ยวที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งในส่วนของหน่วยงานความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มองว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประเทศอย่างมาก เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาประเทศไทย เพราะมีขั้นตอนยากลำบากในการเดินทางเข้าประเทศ การเปิดวีซ่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาที่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น โดยตำรวจจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเน้นย้ำในส่วนด้านความปลอดภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพื่อรองรับนโยบายนี้ ซึ่งจะทำให้โรงแรม ร้านค้า กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของไทย

ส่วนอีกเรื่องที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำและเป็นกังวล คือ การปราบปรามมาเฟียและผู้มีอิทธิพล และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำให้ปราบปรามให้ถึงที่สุด รวมถึงกรณีการฮั้วประมูลในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะคดีกำนันนก ที่มีเงินเป็นพันล้านบาทภายในเวลาไม่กี่ปี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตนยืนยันว่าจะลงไปกำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และตำรวจต้องไม่เป็นไม้ค้ำยันให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้สืบสวนสอบสวนคดีกำนันนกให้ถึงที่สุด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกตำรวจอีก 6 นายเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน หากสอบสวนแล้วพบว่าเป็นผู้กระทำผิด ก็จะขออนุมัติออกหมายจับต่อไป ส่วนตำรวจสามนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเซิร์ฟเวอร์ไปทิ้งน้ำ ได้มีการกู้เซิฟเวอร์แล้ว และจะใช้เวลา 3-4 วัน ในการกู้ข้อมูล

ส่วนทรัพย์สินของกำนันนก ยังไม่มีการอายัดแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายความผิด ขณะนี้ได้เอกสารและข้อมูลส่วนใหญ่มารวบรวมไว้แล้ว โดยจะมีการสอบสวนเรื่องฮั้วประมูล หากพบว่ามีการฮั้วประมูลจริง ก็จะเข้าความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะใช้มาตรการการยึดทรัพย์ได้

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเกิดเหตุแล้ววิ่งหนี จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แน่นอน กลุ่มที่สองคือกลุ่มร่วมทำลายพยานหลักฐาน และพากำนันนกหนี ซึ่งมีการออกหมายจับไปบางส่วนแล้ว และกลุ่มที่สาม พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มนี้

สำหรับตำรวจที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เป็นตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง) ซึ่งคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะพยานหลักฐานมีครบ เพียงแค่ตรวจสอบ CCTV และเส้นทางการเงิน คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะสอบสวนเสร็จสมบูรณณ์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่า กำนันนกไม่มีทางหลุดรอดจากคดี ซึ่งที่ไม่ให้ตำรวจพื้นที่ทำคดี เพราะอาจมีการหลุดรั่ว โดยจะทำให้คดีนี้เป็นตัวอย่าง ว่าใครทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลจะถูกล้างบางให้หมด