

- เผยถือว่าเป็นมาตรฐานทางการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ
- ถือได้ว่าไทยได้แก้ปัญหามาอย่างระมัดระวังมาก ในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- ชี้ที่ประชุมจะมีการพิจารณาร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป.ลาว
- การเลื่อนแผนการปลดเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนแม่เมาะ เครื่องที่ 8-11
- การบริหารอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้า หรือเอฟที
วันนี้ (22 มิ.ย.65) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 4/2565 โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมว.อุตสาหกรรม , นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.ประบุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งก่อนเปิดประชุมว่า ทุกท่านทราบดีว่า ขณะนี้ไทยเรามีปัญหาด้านพลังงานมากพอสมควร ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด แต่มีเรื่องหนึ่งที่น่ายินดีคือการจัดอันดับของสถาบัน ฟิทช์ เรตติ้ง (Fitch) ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือ ของประเทศไทยที่ BBB+ ถือว่าเป็นมาตรฐานทางการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ ถือได้ว่าประเทศไทยได้แก้ปัญหามาอย่างระมัดระวังมากที่สุดในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ และ stakeholders (ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) ที่เกี่ยวข้อง สามารถอยู่ในกรอบและรักษาวินัยการเงินการคลังไว้ได้เป็นอย่างดี จึงขอขอบคุณกรรมการทุกคน
สำหรับการประชุมวันนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณาร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป.ลาว, การเลื่อนแผนการปลดเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนแม่เมาะ เครื่องที่ 8-11 , การบริหารอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้า โดยอัตโนมัติ หรือเอฟที, แนวทางการส่งเสริมการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมเพื่อผลิตไฟฟ้า, การขอยกเว้นภาษีสรรพากร ที่เกิดจากการร่วมลงทุนโครงการแอลเอ็นจีรีซีฟวิ่งเทอร์มินัล แห่งที่ 2 , การขอยกเว้นเงื่อนไขตามหลักการแผนบูรณาการการลงทุน และการดำเนินงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าสำหรับแผนงานและโครงการปี 2565 และการเสนอจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีระยะยาวของป.ต.ท.