วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงกรณีหนี้สาธารณะ ว่า ทุกวันนี้เรามีภาระที่ต้องจ่ายคือการขาดทุนจำนำข้าว อย่าบอกว่าตนไปอ้าง เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบผ่อนชำระอยู่ ถ้าไม่พูดจะรู้เรื่องกันไหม ไม่ได้ไปเน้นใครก็แล้วแต่ ใครทำก็รับไป โครงการนี้มีภาระที่รัฐชดเชยใช้ไปแล้วกว่า 705,018.05 ล้านบาท วันนี้เหลือหนี้จำนำข้าว อยู่ที่ปี 63 ประมาณ 280,000 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ยอีก 800 ล้านบาท และยังต้องตั้งงบประมาณชดเชยแบบไม่ได้อะไรเลย ปีละ 20,000 ล้านบาท และต้องตั้งไปอีก 12 ปี ตนก็เสียดาย
นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้จากโครงการบ้านเอื้ออาทร ทิ้งหนี้ให้กับการเคหะกว่า 20,000 ล้านบาท มีบ้านที่สร้างเสร็จแล้วขายไม่ได้อีกหลายหมื่นยูนิต สิบปีที่ผ่านมาการเคหะแบกรับโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ล้มเหลวยอดความเสียหาย 10 ล้านบาท ไม่รวมหนี้เน่าและภาระดอกเบี้ยที่กู้มา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าลืมปัญหาหนี้สาธารณะ เป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลต้องรักษาต่อเนื่องกันมา แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องของที่เราต้องแบกภาระในวันหน้าทุกคนต้องมาใช้หนี้ด้วยกัน เพราะเป็นเรื่องการใช้งบประมาณภาครัฐ ที่มาจากภาษีของประชาชน เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ รัฐบาลไม่ต้องการรีดภาษีจากใคร และไม่ดีมีการขึ้นภาษีตรงไหนโดยเฉพาะในช่วงนี้
“ลองคิดให้ละเอียดไม่ต้องถึงขนาดเป็นนักเศรษฐศาสตร์ เอาเฉพาะที่คนไทยมีรายได้ที่แตกต่างกันมากน้อยเพียงใดก็ไปแก้ที่ตรงนั้น วันนี้เป็นช่วงที่ต้องทำให้คนดำรงชีวิตอยู่ได้ แล้วโครงการใดก็ตามที่ออกไปเป็นเรื่องของสินค้าอุปโภคบริโภค ซื้อจากผู้ประกอบการค้าปลีก ชาวบ้าน ร้านค้าตลาด ร้านค้าแท็กซี่ อะไรก็แล้วแต่ที่ให้ไป อย่างโครงการคนละครึ่งปกติเขาก็ใช้กันอยู่แล้วเพียงแต่ต่อยอดให้เขา มันก็เกิดการหมุนเวียน ของการใช้เงินในระบบมันทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากมายในวงจรการใช้จ่ายดับฐานราก วันนี้เราต้องให้ทุกคนอาจจะต้องอยู่อย่างพอเพียง”
