“นายกฯเศรษฐา” ถกสมาคม 8 สายการบินกับ AOT แก้ด่วน “เพิ่มเที่ยวบิน-ลดค่าตั๋ว” ดึงต่างชาติเข้าไทย ต.ค.66

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” เปิดพรรคเพื่อไทยถกด่วนสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย และ AOT กอดคอปั๊มรายได้ต่างชาติทัวร์ไทย ต.ค.66

  • ขอแก้ด่วน 2 เรื่อง “เพิ่มเที่ยวบินให้เพียงพอ-ลดค่าตั๋วบินแพง” 
  • ด้านเอกชนวอนช่วยต้นทุน 3 เรื่อง “ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน-เพิ่มสิทธิการบิน-ปรับจราจรนำเครื่องขึ้น-ลง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย เปิดให้สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย 8 สายการบิน และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เข้าร่วมหารือที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศเพิ่มรายได้เร่งด่วนเข้าไทยตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นช่วงวันชาติจีนซึ่งจะมีนักเดินทางเป็นจำนวนมาก จึงขอให้เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 2 เรื่องด่วน ได้แก่

เรื่องที่ 1 กำหนดแนวทางเพิ่มปริมาณจราจรเที่ยวบินทางอากาศระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารช่วงฤดูเดินทางท่องเที่ยวหนาแน่น (high season) ปลายปีนี้ เรื่องที่ 2 แก้ปัญหาราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 แต่ราคาตั๋วยังคงสูงกว่าสถานการณ์ปกติทั่วไป

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอในที่ประชุมกับนายเศรษฐานายกรัฐมนตรี ถึงความต้องการของสมาชิกทั้ง 8 สายการบินของไทย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส การบินไทย  ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท ก็ต้องการเสนอให้รัฐบาลใหม่ช่วยปลดล็อกปัญหาหลักของเอกชนเช่นกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและขีดความสามารถแข่งขันกับสายการบินนานาชาติอื่น ๆ ได้ เบื้องต้น 3 เรื่อง ได้แก่

เรื่องที่ 1 ขอให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ชะลอหรือลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน (excise tax) เครื่องบินไอพ่นลง จะได้ช่วยลดต้นทุนการบินลงได้ จากปัจจุบันกลับมาเก็บสูงถึง 4.726 บาทต่อลิตร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมาตรการก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือเรียกเก็บเพียง 0.20 บาทต่อลิตร

เรื่องที่ 2 การส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินของไทยให้มีความแข็งแกร่งสามารถฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว เกี่ยวกับขั้นตอนการนำเครื่องบินผู้โดยสารเข้า-ออก ตามสนามบินต่าง ๆ

เรื่องที่ 3 รัฐบาลควรเร่งเจรจาเพิ่มสิทธิการบินระหว่างประเทศในประเทศกลุ่มตลาดเป้าหมายสำคัญของไทย โดยเฉพาะการพิจารณาอนุมัติวีซ่านักท่องเที่ยวไทยกับนานาชาติให้คล่องตัวรวดเร็วเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ทางด้าน นายกีระติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” กล่าวรับนโยบายรัฐบาลใหม่โดยจะเร่งเดินหน้าบริหารจัดการความแออัดของผู้โดยสารทั้ง 2 สนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิกับดอนเมืองให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยจะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 ควบคู่กับการร่วมกับสายการบินเอกชนสมาชิกสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย ทำให้ขั้นตอนการนำเครื่องขึ้น-ลง และการจัดจราจรผู้โดยสารสนามบินคล่องตัวเพิ่มขึ้น

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen