

มีรายงานข่าวว่า “โอมาร์ ฮิเมเนซ” ผู้สื่อข่าวผิวสีของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ถูกตำรวจจับกุมระหว่างการรายงานข่าวถ่ายทอดสดเหตุการณ์จลาจลในเมืองมินินอาโปลิส รัฐมินเนโซต้า
ซึ่งได้มีชาวบ้านออกมาประท้วงตำรวจทำเกินกว่าเหตุได้จับกุม “จอร์จ ฟลอยด์” อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นชายผิวสีถูกตำรวจเอาเข่าล็อกคอกลางถนนจนเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์ลุกลามเผาอาคาร รถยนต์ ปล้นร้านค้า ศูนย์การค้า โรงรับจำนำและเหตลุกลามไปเมืองอื่นๆ ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างสาเหตุจับกุมเพราะนักข่าวที่ถูกกล่าวหาไม่เคลื่อนไหวเมื่อถูกร้องขอ อย่างไรก็ตามรายงานสดทางวีดิโอแสดงให้เห็นว่า “ฮิเมเนซ” ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็นได้บอกกับตำรวจอย่างสุภาพว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามอย่างสุภาพ ผลที่ตามมามีสมาชิกอีกสองคนถูกใส่กุญแจมือและถูกควบคุมตัวหลังจากช่วงเช้าตี 5 โมง
ซีเอ็นเอ็น ออกแถลงการณ์ถึงการจับกุมดังกล่าวว่าเป็น “การละเมิดสิทธิอย่างชัดเจน” และเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา “ปล่อยพนักงานซีเอ็นเอ็นทั้งสามคนทันที”
โดยพนักงานของซีเอ็นเอ็นทั้งสามถูกปล่อยตัวจากศูนย์ความปลอดภัยสาธารณะเขตเมือง เฮนน์พินเคาน์ตี้ ในมินนิอาโปลิสทันทีหลังจาก 6:30 น. ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น
ในทวีตตำรวจสายตรวจรัฐมินนิอาโปลิสกล่าวว่า การจับกุมเกิดขึ้นในระหว่างการเคลียร์ถนนและมีคำสั่งให้ส่งคืนพื้นที่ ” และ “พวกเขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อยืนยันว่าเป็นสื่อ” ในคลิปวีดิโอจับกุม ฮิเมเนซ แสดงบัตรประจำตัวสื่อให้ตำรวจดูและพูดว่า “พวกเราสามารถเคลื่อนย้ายไปยังที่ที่คุณชอบ ทุกที่ที่คุณต้องการเราจะไป”
“โจช์ แคมเปลล์” นักข่าวขาวคนหนึ่งของซีเอ็นเอ็น ถูกตำรวจเข้ามาหา แต่ไม่ถูกจับกุม “ผมได้รับการปฏิบัติแตกต่างจาก (ฮิเมเนซ) มาก” เขา กล่าว
ตามคำแนะนำสำหรับการปิดกั้นการประท้วงโดยคณะกรรมการผู้สื่อข่าวเพื่อเสรีภาพในการทำงานของสื่อ “ตำรวจอาจไม่ป้องกันนักข่าวจากการราย
งานข่าวการประท้วงหากนักข่าวอยู่ในสถานที่สาธารณะได้รับอนุญาต และพวกเขาจะไม่รบกวนหรือแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมาย” คู่มือดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “ตำรวจไม่สามารถจับกุมนักข่าวสำหรับการตอบโต้กับรายงานข่าวเชิงลบหรือเพื่อการป้องกันการรายงานข่าวในที่สาธารณะที่มีการประท้วงกัน”
ด้าน “ทิม วัลซ์” ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาขอโทษสำหรับจับกุมกล่าวว่า“ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้”
ที่มา- time.com