- เหตุหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด
- ให้เฉพาะกัญชาที่ไปใช้ด้านการแพทย์และเภสัชกรรม
- ความไม่ชัดเจนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ได้จัด ทำโครงการนำร่องการปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการปลูกกัญชา ตั้งแต่เดือนก.ย.2564 ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์และเภสัชกรรม โดยสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 25 ล้านบาท จากวงเงินเป้าหมาสย 5,000 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ปล่อยสินเชื่อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างเข้มงวด เพื่อให้ไม่มีการนำกัญชาที่ปลูก ไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น นอกเหนือจากด้านการแพทย์และเภสัชกรรม รวมถึงความไม่ชัดเจนในประเด็นกฎหมายด้วย
สำหรับการกำหนดกฎเกณฑ์การให้สินเชื่อกัญชาที่ค่อนข้างเข้มงวด โดยคุณสมบัติของผู้ขอกู้ ต้องเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตรที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีการทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลระหว่างผู้ขอกู้กับหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษา ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนหรือมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือเกษตรศาสตร์ หรือมีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด และต้องได้รับใบอนุญาตให้ผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงมีการควบคุมโรงเรือนที่เพาะปลูกอย่างเข้มงวด เช่นต้องมีการติดตั้งวงจรปิด เพื่อให้สามารถเห็นสภาพในโรงเรือนตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้จำนวนผู้ผ่านคุณสมบัติมีจำนวนน้อย ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนเพียง 7 แห่ง ที่ผ่านคุณสมบัติ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR + ตามชั้นความเสี่ยง ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้นั้นในกรณีกู้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการผลิต กำหนดระยะเวลาชำระคืนภายใน 12 เดือน ไม่เกิน 18 เดือน กรณีกู้เป็นค่าลงทุนในการผลิต กำหนดชำระคืนภายใน 5 ปี
ส่วนประเด็นกฎหมายนั้น หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ปลดล็อคกัญชาและกัญชง ออกพืชเสพติด และได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อควบคุมการใช้กัญชาและกัญชง เช่น ห้ามการสูบเสพในที่สาธารณะ อาทิ พื้นที่กระทรวงสาธารณสุข โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ถนนหนทาง สถานที่รวมกลุ่มคนจำนวนมาก สอดคล้องกับประกาศกรมอนามัยควบคุมเหตุรำคาญจากกลิ่นหรือควันกัญชา แต่อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถครอบครองกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ แม้จะผ่านวาระหนึ่ง หรือวาระรับหลักการจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ผ่านวาระสอง
