- ช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ
- รักษาธุรกิจและงานให้กับประชากรที่ได้รับผลกระทบ
ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) แถลงว่า ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการนโยบายทางการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยธนาคารลง 0.5% มาอยู่ที่ 0.25% บีโออี ระบุว่า การหั่นดอกเบี้ยแบบฉุกเฉินนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและครัวเรือนในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 นับถึงวันที่ 10 มี.ค. สหราชอาณาจักรรายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ที่ 383 คน และเสียชีวิต 6 คน
เมื่อรวมกับงบประมาณในวันพุธที่จะเพิ่มการกู้ยืมเงินให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความตั้งใจของธนาคารกลางอังกฤษและรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการต่อสู้กับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรค, มาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคาร กล่าว
สำนักข่าวไฟแนนซ์เชียล ไทม์ รายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบที่จะลดอัตราดอกเบี้ยหลักลงครึ่งหนึ่งเป็น 0.25% ในการประชุมพิเศษที่จะสิ้นสุดในวันอังคารซึ่งแทบจะไม่มีที่ว่างให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป
ธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยคือการตัดสินใจให้เงินทุนราคาถูกกับธนาคารเป็นเวลาสี่ปีเพื่อให้พวกเขาสามารถให้ยืมต่อในช่วงวิกฤตจากไวรัสโควิด-19 และ “เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงิน (Prudential Regulation Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารกลางอังกฤษ ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้ให้กู้และผู้ประกันตนในสหราชอาณาจักรกำหนดความคาดหวังว่าธนาคารไม่ควรเพิ่มเงินปันผลหรือโบนัสตามนโยบายของธนาคารกลาง
การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารจะช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ยากลำบากเพื่อหนุนกระแสเงินสดของธุรกิจและครัวเรือนและเพื่อลดต้นทุนและเพื่อปรับปรุงความพร้อมทางการเงิน “ธนาคารกล่าว
ธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรติดตามธนาคารกลางสหรัฐในการดำเนินการที่ไม่ได้กำหนดไว้เพื่อต่อสู้กับการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจจากไวรัส นายคาร์นีย์กล่าวว่ามาตรการดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อ“ รักษา บริษัท ในธุรกิจและผู้คนให้มีงานทำ”
เรน นิวตัน สมิท (Rain Newton Smith) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ จาก ซีบีไอ (CBI) อธิบายว่าการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางอังกฤษ เป็นการ“ ตอบสนองอย่างทันท่วงทีและได้สัดส่วนตามสถานการณ์ที่ร้ายแรงแม้ว่าจะมีการทบทวนนโยบายที่สำคัญเมื่อมีการปรับปรุง”
“ มาตรการช่วยเหลือธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจสนับสนุนที่อาจเผชิญกับปัญหากระแสเงินสดอาจสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” เธอกล่าว
