- ธกส.ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ
- ช่วยล้งไทยพัฒนาธุรกิจ
- คานอำนาจราคาผลไม้
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ธนาคารทำโครงการสินเชื่อเอสเอ็มอีโลจิสติกส์ไม้ผลเศรษฐกิจ วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนให้ผู้ประกอบการคนไทยที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับขนส่ง รวบรวม และแปรรูปผลไม้ ทั้งบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน นิติบุคคล มีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ใช้ลงทุนแข่งขันกับธุรกิจล้งจากต่างประเทศได้
สำหรับวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท จะปล่อยกู้ให้นำไปใช้ลงทุนทั้งการรับซื้อรวบรวมผลไม้ การแปรรูป การบรรทุกขนส่งผลไม้ การสร้างห้องเย็น โดยสามารถกู้ได้สูงสุดถึง 12 ปี คิดดอกเบี้ยอัตราต่ำพิเศษ 1-3 ปีแรก คิดดอกคงที่ที่ 4% หลังจากนั้นคิดลูกค้านิติบุคคลที่ 4.8% ส่วนลูกค้าบุคคลธรรมดาคิดเอ็มแอลอาร์ เท่ากับ 6.5% เริ่มกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.63จนถึง 31 มี.ค.66 โดยการกู้ครั้งนี้จะครอบคลุมผลไม้ทุกประเภท ทั้งผลไม้เศรษฐกิจหลัก เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ และลองกอง รวมถึงผลไม้เศรษฐกิจรอง เช่น ลิ้นจี่ ส้ม กล้วย มะละกอ ตลอดจนผลไม้ท้องถิ่น แต่มีข้อแม้ว่าธุรกิจนั้นจะต้องเป็นของคนไทย 100% ห้ามเป็นธุรกิจนอมินีจากชาวต่างชาติเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผลจากงานวิจัยพบว่า ปัจจุบันในพื้นที่ภาคตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้ขนาดใหญ่สุดของประเทศ มีผู้ประกอบการล้ง หรือธุรกิจเกี่ยวกับขนส่ง รวบรวม และแปรรูปผลไม้ตกไปอยู่ในมือของชาวจีน และชาวต่างชาติมากถึง 70% ที่เหลือเป็นของคนไทยเพียง 30% ซึ่งในระยะสั้นแม้ผู้ประกอบการต่างชาติจะเข้ามารับซื้อผลไม้ในราคาสูงเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร แต่ในระยะยาวอีก 3-4 ปีข้างหน้า กลัวว่าหากธุรกิจล้งคนไทยอยู่รอดไม่ได้ ก็อาจจะเกิดการผูกขาดและกดราคาผลไม้ตามมา ดังนั้น ธ.ก.ส.จึงต้องเข้าไปช่วยเหลือล้ง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซนต์ให้อยู่รอด และแข่งขันได้ในระยะยาวด้วย
