ที่ปรึกษาสาธารณสุขชี้ “ทรัมป์” ปฏิเสธมาตรการ social distancing ตามคำแนะนำ และหากจะผ่อนคลาย 1 พฤษภาคมนี้ เกรงว่าจะเป็นการโยนน้ำมันเข้ากองไฟ

ดร.แอนโทนี่ เฟาซี่ กับ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ภาพโดยJim Watson/AFP via Getty Images

ดร.แอนโทนี่ เพาซี่ ที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “คุณพูดได้อย่างมีเหตุผล หากเริ่มดำเนินการก่อนหน้านี้คุณสามารถช่วยชีวิตคนได้ และยืนยันกับรายงานข่าวของเรื่อง a bomshell ของ New York Times ที่รายงานว่า เขาและทีมงานของทรัมป์ได้เสนอแนะนำวิธีการปฏิบัติที่รัฐจะทำให้สังคมอยู่ห่างกัน (physical distancing) แต่ได้รับการปฏิเสธมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม

ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นถามว่าว่าทำไมสถานะการบริหารทำไมถึงทำไม่ได้เมื่อเขาและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ให้คำแนะนำ ดร.เฟาซี่ กล่าวว่า: “ คุณรู้…ผมได้กล่าวหลายครั้งเรามองจากจุดยืนทางด้านสุขภาพ เราให้คำแนะนำ บ่อยครั้งแนะนำก็ถูกนำไปใช้ แต่บางครั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น

ดร.เฟาซี่ตอบคำถามอีกว่า ตนคิดว่าหลายๆ ชีวิตอาจรอดตาย ถ้ามาตรการ social distancing ได้เริ่มใช้ในสัปดาห์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์แทนที่จะเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ “ทรัมป์” ได้ประกาศออกไป

“มีเรื่องเกี่ยวกับการผลักดันมากมายในมาตรการการสั่งปิดต่างๆ มันเป็นเรื่องยากที่กลับไปพูดถึงเรื่องนี้ หมายความว่าถ้าเราเริ่มต้นมาตรการปิดต่างๆ ให้เร็วกว่านี้ คุณอาจจะช่วยชีวิตคนได้ เห็นชัดเจนว่าไม่มีใครปฏิเสธได้” เขากล่าว

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ออกแนวทางมาตรการ physical distancing เมื่อวันที่ 16 มีนาคม เพื่อปิดเศรษฐกิจและนำไปสู่การว่างงานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

ทาง “ทรัมป์” แสดงความไม่พอใจจะถูกเป็นเงื่อนไขในการเลือกตั้ง ทำให้มีความกระตือรือร้นที่จะเปิดให้เศรษฐกิจกลับมาเคลื่อนไหวขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม และเขากล่าวด้วยว่าเขาจะรับฟังที่ปรึกษาหากพวกเขาไม่ให้คำแนะนำในเรื่องนี้

ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ดร.เฟาซี่ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญคนอื่นและ “ฟิล เมอร์ฟี่” ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี่ รัฐที่มีผู้เสี่ยชีวิตมากที่สุดรองจากรัฐนิวยอร์กกล่าวกับซีบีเอสว่า การผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไปอาจจะเหมือนการโยนน้ำมันเข้ากองไฟ