ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยยันเดินหน้าทำเศรษฐกิจโตทุกส่วนแข็งแรงไปด้วยกัน

  • ให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยการเงินการคลัง
  • มุ่งเศรษฐกิจคู่ขนานเติบโตทั้งภายในและภายนอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยร่วมแถลงข่าว “ฟื้นเศรษฐกิจประเทศหลังเลือกตั้ง โดยรัฐบาลเพื่อไทย”

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เศรษฐกิจจะดีได้ต้องมีเสรีภาพในการทำมาหากินตามหลักประชาธิปไตยกินได้ ทางพรรคยึดถือแนวทางที่ว่าจะรดน้ำที่ราก ให้ประชาชนทุกส่วนได้ประโยชน์ต้นไม้เศรษฐกิจเติบโตทุกส่วนแข็งแรงไปด้วยกัน ประเทศไทยยืนในเวทีโลกต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก เศรษฐกิจและผู้ประกอบการ นโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคได้หารือกับสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ได้รับการตอบรับอย่างดี เป็นความหวังจัดตั้งรัฐบาล ได้รับการติดต่อจากนักลงทุนต่างประเทศจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เราจะแปรเปลี่ยนความหวังให้เป็นความจริง

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยต้องการสร้างความมั่งคั่งให้มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโตเป็นหลัก จะทำให้รายได้ของรัฐเพิ่มขึ้นมีเงินเพียงพอดูแลไม่ให้ใครตกหล่น พรรคเพื่อไทยต้องการให้รัฐบาลมีขนาดพอดีไม่ใหญ่มาก มีการกระจายอำนาจ แนวทางที่จะทำคืออัพเกรดภาคสาธารณสุขขึ้นไปอีก ดูแลสุขภาพเป็นรายบุคคลมากกว่าการรักษาทุกโรค ใช้ระบบออนไลน์มาช่วย ขณะนี้ปัญหาหนี้ส่วนบุคคลเป็นเอ็นพีแอลเกือบ 20% เป็นเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นโดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าเป็นต้นไป

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาด้านอุปทาน บริการ การผลิต การเกษตร ต้องเพิ่มผลิตภาพ ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ให้ประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้น ขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับวินัยทางการคลัง การดำเนินการใดๆจะอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังที่ประกาศเอาไว้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ออกนโยบายมาเพื่อให้ใครได้ผลประโยชน์ทางตรงหรือเอาใจใคร แต่ออกมาเพื่อรวมกันแล้วกลายเป็นเศรษฐกิจที่ดี

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ มีสงครามการค้า โรคระบาด สงครามยูเครนกับรัสเซีย และการก้าวกระโดดของยุคดิจิทัล ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรง น้ำมันแพงขึ้น อาหารแพงขึ้น เงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน กระทบทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในของไทย พรรคเพื่อไทยต้องการแก้ปัญหาความยากจน สร้างรายได้ให้ประชาชน สร้างงาน การผลิต เกษตรกร เอสเอ็มอี เพื่อไทยจึงมีนโยบาย 2 ด้าน นโยบาย Dual Track สมัยไทยรักไทยยังมีความทันสมัยอยู่ อาจจะแทรกเรื่องดิจิทัล ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ทางพรรคให้ความสำคัญ ดังนั้นเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศจะมีความเชื่อมโยงกัน และจะเสริมซึ่งกันละกัน

“ในส่วนของการค้าระหว่างประเทศ นโยบายเพื่อไทยจะเป็นมิตรทางการค้ากับทุกประเทศ จะไม่เลือกข้างเด็ดขาด การค้าจะเป็นหัวใจให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น และจะดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา และการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่สมัยไทยรักไทย จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ จะเร่งผลักดันที่ยังค้างอยู่ในเสร็จโดยเร็ว ควิก-วิน คือเอฟทีเอไทยอียูจะเร่งผลักดันให้เสร็จภายใน 1 ปี รวมทั้งการดึงลงทุนจากกลุ่มตะวันออกกลางเข้ามาในประเทศไทย”