ทีทีบี เดินหน้ายกระดับบริการ พัฒนาโซลูชันผ่านแนวคิดทางการเงิน 4 เรื่องตอบโจทย์ลูกค้า



  • รอบรู้เรื่องกู้ยืม-มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ
  • ฉลาดออม ฉลาดใช้ และลงทุนเพื่ออนาคต

วันที่ 10 ส.ค.2564 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า หลังการรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาตเสร็จสมบูรณ์แล้ว ธนาคารพร้อมเดินหน้าสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และ คนไทยทั้งประเทศ ตามเป้าหมายของธนาคาร โดยเฉพาะในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในช่วงที่เปราะบางจากสถานการณ์โควิด-19 คนไทยส่วนใหญ่ประสบปัญหาทางการเงิน การสร้างพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแรงในระดับบุคคลเป็นเรื่องที่สำคัญ

โดยธนาคารได้มุ่งพัฒนาโซลูชันผ่านแนวคิดพื้นฐานด้านการเงิน 4 มิติสำคัญ คือ รอบรู้เรื่องกู้ยืม , มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ , ฉลาดออม ฉลาดใช้ และ ลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าหากทุกคนนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้จะช่วยเสริมรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และ สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของโควิดสะท้อนให้เห็นความเปราะบางทางด้านการเงินของคนไทยได้อย่างชัดเจน โดยหลายคนขาดรายได้ มีความต้องการกู้ยืม เห็นได้จากยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 14.13 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90.5% ต่อจีดีพีของไตรมาส 1 ปี 2564 และ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ที่มีหนี้สินเดิมอยู่แล้วต้องการเงินไปหมุนเพิ่มเติม หรือ ผู้ที่ขาดรายได้ก็ต้องการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน หรือ ธุรกิจ ในขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้เดิมลดลง

ทั้งนี้จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปี 63 พบว่า คนไทยมีสัดส่วนหนี้ที่เกิดจากการบริโภค และ การใช้จ่าย (Consumption Debt) สูงถึง 34% และ คนส่วนใหญ่เลือกใช้สินเชื่อบุคคล เห็นได้จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อบุคคลที่ 6.4% ซึ่งมียอดรวมสูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท เนื่องจากสะดวก และ สมัครง่าย ไม่ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ก็ตาม

นอกจากนี้ จากตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ปี 2563 พบว่า จากจำนวนประชากรไทย 100 คน มีการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตเพียง 39 ฉบับ แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น และ ด้วยอัตราค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องของการมีประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยรองรับความเสี่ยง

สำหรับฉลาดออมฉลาดใช้ ต้องการสร้างรากฐานการเงินที่ดี ในสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ทุกคนควรคำนึงถึงความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย หรือ หาตัวช่วยทางการเงินที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้จริงโดยเมื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นแล้ว ก็ควรเริ่มต้นสร้างวินัยในการออมต่อไป โดยจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า สัดส่วนเงินออมต่อรายได้ของคนไทยในปัจจุบันมีเพียง 12.5%

สุดท้าย คือ ต้องวางแผนการเงินเหมือนวางแผนชีวิต เริ่มต้นลงทุนเพื่ออนาคตตั้งแต่วันนี้ ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว และ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ทั้งดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่สิ้นปี 2562 จากค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.50% ลงมาอยู่ที่ 0.25% ต่อปี หรือ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีที่โดยเฉลี่ยปรับตัวลดลงจากสิ้นปี 62 ที่ระดับ 1.30% ลงมาอยู่ที่ระดับดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี จึงควรมองช่องทางการลงทุนอื่น ๆ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น

นอกจากนี้การนำเสนอแนวคิดพื้นฐานด้านการเงิน 4 มิติ พร้อมโซลูชันทางการเงินที่พัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว ทีเอ็มบีธนชาตพร้อมส่งมอบแนวทางความรู้และประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นผ่านผู้เชี่ยวชาญของธนาคาร (Trusted Advisor) ที่พร้อมให้คำแนะนำด้านการเงินต่าง ๆ เว็บไซต์ ttbbank.com ที่ออกแบบใหม่ เน้นให้ข้อมูลความรู้และโซลูชันด้านการเงินที่เข้าใจง่าย และ บริการด้านดิจิทัลแบงกิ้งต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Humanized Digital” เป็นมิตรและรู้ใจ ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละคนในแต่ละช่วงชีวิต ซึ่งจะทยอยเปิดตัว และ ให้บริการในครึ่งหลังของปี 64

“ทีเอ็มบีธนชาตเชื่อมั่นว่า การทำงานและนำเสนอโซลูชันทางการเงินภายใต้แนวคิดพื้นฐานการเงินทั้ง 4 มิติ จะช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย ทั้งในวันนี้ และ อนาคตได้จริง และ สามารถช่วยคนไทยก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปด้วยกัน”นายปิติ กล่าว