

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรจะดำเนินการ ให้อาชีพบริการด้านการเกษตร อย่างถูกต้องอยู่ในระบบ โดยจัดให้มีการขึ้นทะเบียนประเภทการทำเกษตรและจำเป็นต้องมีใบอนุญาต มีการกำหนด อัตราค่าจ้าง ซึ่งคำนวนจากต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้เกิดมาตรฐาน ไม่มีการโก่งราคาจากแรงงาน หรือผู้รับจ้างกรณีแรงงานมีน้อย และไม่มีการกดราคาจากผู้จ้าง กรณีมีแรงงานจำนวนมาก และเพื่อรองรับที่รัฐบาลสนับสนุนให้มีการทำการเกษตรแปลงใหญ่ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้เครื่องจักรการเกษตรมาช่วย อาชีพ ไถพรวนดิน โดยใช้เครื่องจักร ต้องอบรมการใช้เครื่องจักร อาชีพเกี่ยวข้าวด้วยเครื่องจักร ต้องอบรมการใช้เครื่องจักรเกี่ยวข้าว อาชีพหว่านปุ๋ยเคมี โดยใช้เครื่องจักร ก็ต้องอบรมการใช้เครื่องพ่น หว่ายปุ๋ย เป็นต้น
“ที่ผ่านมาประเทศไทยมีบริการด้านการเกษตรอยู่แล้ว แต่ไม่มีการทำให้เป็นระบบ อาทิ แรงงานไถนา เกี่ยวข้าว ผสมเทียม แรงงานไถพรวนดิน แรงงานดำนา รับจ้างเก็บดอกกล้วยไม้และดูแลสวน แรงงานในเรือประมง ต่อไปต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง อย่าง คนเกี่ยวข้าว ไถนา ให้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เจ้าหน้าที่ผสมเทียมสัตว์ ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ และต้องมีการอบรมให้ถูกต้อง”
สำหรับการบริการทางการเกษตร แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. บริการเตรียมดิน-ปลูก การให้บริการประเภทต่าง ๆ ถูกจำแนกออกตามชนิดของเครื่องมือเครื่องจักร ที่ใช้ในการบริการนั้น เช่น บริการเตรียมดิน-ปลูกจำแนกออกเป็นกิจกรรมบริการรถไถ บริการล้าง บ่อปลา ล้างบ่อกุ้ง 2.บริการดูแลรักษา บริการประเภทนี้จำแนกออกเป็นกิจกรรมบริการรถไถกำจัดวัชพืชซึ่งหมายถึงกิจกรรมการกำจัดวัชพืชโดยใช้รถไถ ข้อสังเกตประการหนึ่งของการใช้เครื่องมือเครื่องจักรในการทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง เช่น กรณีรถไถที่ให้บริการกำจัดวัชพืชนี้อาจเป็นคันเดียวกับที่ให้บริการในกิจกรรมการเตรียมดิน ดังนั้น การคำนวณมูลค่าบริการของกิจกรรมใดจะต้องคิดเฉพาะมูลค่าและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการให้บริการชนิดนั้นเท่านั้น
- บริการเก็บเกี่ยว-นวด ประกอบด้วยกิจกรรมบริการเครื่องเก็บเกี่ยว เครื่องสี เครื่องนวด เครื่องปั่น เส้นใยพืช เครื่องลอกปอ เครื่องกระทำเปลือกถั่วลิสง กิจกรรมบริการตัดไม้กิจกรรมบริการลิงเก็บมะพร้าว 4. บริการหลังเก็บเกี่ยว ประกอบด้วย กิจกรรมบริการรถบรรทุกผลผลิตเกษตร บริการเก็บรักษาผลผลิต
” ภาคเกษตรต้องปรับตัวเพื่อสร้างมาตรฐาน เพราะสินค้าไทยหลายตัว อาทิ ข้าว สินค้าประมง เป็นต้น มีการส่งออก กระทรวงเกษตรฯจึงดำเนินการตรวจ และสร้างมาตรฐานให้กับสินค้า ทั้งในแง่ผลผลิต ที่ต้องมีมาตรฐาน ตรวจสอบย้อนกลับได้ และแรงงาน ต้องมีการตรวจสอบ ว่ามีสุขภาพดีไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคไปยังสินค้าต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าของไทย”