ทัวร์เอาต์บาวด์ขอรัฐบาลใหม่ยกเว้นแวต7%

  • หวั่นคนไทยซื้อทัวร์เที่ยวเมืองนอกของออนไลน์ต่างชาติ
  • ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยสู้ไม่ไหว
  • ชี้เป็นเม็ดเงินปีละ 5,000ล้านบาท

น.ส.ทัศนีย์ เกียรติกำจรชัย เลขาธิการสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ทีทีเอเอเตรียมข้อมูลที่เป็นผลการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณายกเว้น หรือลดอัตราการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)ให้กับบริษัททัวร์ที่ทำธุรกิจเอาต์บาวด์ หรือที่นำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับบริษัททัวร์ของต่างประเทศ เพราะผู้ประกอบการเอาต์บาวด์กำลังจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขายแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศ

“ตอนนี้นักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เริ่มหันไปซื้อทัวร์ต่างประเทศจากบริษัทต่างประเทศผ่านระบบออนไลน์ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ มากขึ้น เพราะไม่ต้องจ่ายแวต 7% สมมติคนไทยจะไปเที่ยว ญี่ปุ่น หากซื้อทัวร์ หรือแพ็คเกจท่องเที่ยวจากไทย 100 บาทต้องบวก 7 บาท แต่ซื้อผ่านตัวแทนต่างประเทศ จ่ายแค่ 100 บาท ถูกกว่าไทย ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการไทย”

นอกจากนี้ ภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งเป็นภาษีการบริโภคมีหลักคิดว่า บริโภคที่ไหน จ่ายที่นั่น แต่การซื้อแพคเกจทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศกลับต้องมาเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย และหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าในธุรกิจสายการบินก็ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ในการซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินก็ไม่ถูกเก็บภาษีมค่าเพิ่ม ฉะนั้นทัวร์เอาต์บาวด์ก็น่าได้รับการยกเว้นเช่น ทั้งนี้ เมื่อคำนวณจากจำนวนคนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศ ปีละ 10ล้านคน คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 300,000 ล้านบาท แต่เกือบประมาณ 50% จะซื้อแพ็คเกจทัวร์ผ่านตัวแทนจำหน่ายซึ่งในจำนวนนี้หากคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ที่ผ่านมาหลังได้ผลการศึกษาฯ ทีทีเอเอได้หารือกับกรมสรรพากร และเตรียมตั้งคณะทำงานให้แล้วเสร็จในประมาณเดือนก.ค.2562 เพื่อจะนำผลการหารือเสนอต่อรัฐบาลใหม่ เพราะขณะนี้ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรป ไม่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริษัททัวร์เอาท์บาวด์เลย