“ทะลุฟ้า”ยืนหยุดขัง 1.12 ชม. ประจานรัฐบาลไทยล้มเหลว ขอ UN จับตาปมโควิด-จำกัดสิทธิปชช.



วันที่ 21 สิงหาคม 2564 กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรม “ยื่นหนังสือทะลุโลก เปิดโปงทรราชให้ต่างชาติได้รับรู้” ถึง สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบกระบวนการยุติธรรม และคัดค้านการจับกุมนักกิจกรรมทางการเมือง อย่าง ไม่ชอบธรรม นั้น

เวลา 14.45 น. กลุ่มทะลุฟ้า กว่า 10 ราย แต่งกายคล้ายนักโทษ และห้อยโซ่ตรวนที่ขา ก่อนทำกิจกรรม ยืนหยุดขัง  โดยยืน 1 ชั่วโมง 12 นาที เพื่อแสดงออกถึงความไม่เป็นธรรม รัฐบาลได้ช่วงชิงอำนาจอธิปไตย ไปจากประชาชน

พร้อมระบุว่า จะมีการอ่านข้อเรียกร้องในช่วงท้าย

ทั้งนี้ ระหว่างการทำกิจกรรม มีการวางป้ายข้อความเรียกร้องที่ปลายเท้า แสดงออกถึงการถูกจำกัดสิทธิในการแสดงออก

เวลา 14.51 น. นายนวพล ต้นงาม หรือ ไดโน่ กล่าวปราศรัยขณะทำกิจกรรมยืนหยุดขัง ว่า เราอยากให้สหประชาชาติได้รู้ว่า รัฐไทย ใช้กฎหมาย ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ พาเพื่อนเราไปเป็นกลุ่มเสี่ยง จากคลัสเตอร์ในเรือนจำที่มีเพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม

กฎหมายมาตรา 29 ระบุว่า ยังไม่มีคำพิพากษา แปลว่าไม่ผิด  เราจึงต้องมาทำกิจกรรมให้โลกได้รู้ว่า การใช้กฎหมายของรัฐรุนแรงขนาดไหน รุนแรงขนาดทำให้เพื่อนของเราติดโควิดไปแล้ว 2 คน ยังไม่รู้ว่าจะติดอีกหรือไม่ จากการที่รัฐบาลใช้กฎหมาย เป็นเครื่องมือจำกัดสิทธิการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญที่มี

“สหรัฐฯ ติดเครื่องติดตามที่เท้า เพื่อไม่ให้คนติดโควิดในเรือนจำ และคนล้นเรือนจำ แต่รัฐไทยมีเจตนาที่ทำให้เพื่อนเราเข้าไปติดโควิดในนั้นใช่หรือไม่ ถ้าวันนี้ทั่วโลกได้ฟังอยู่ เรากำลังมาเรียกร้องให้รู้ว่า รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่เคยเห็นค่าประชาชน

คนเห็นต่างไม่สามารถอกมาพูด ออกมาแสดงออกได้ ตามหลักสากล และรัฐธรรมนูญ ไม่มีอีกแล้ว รัฐล้มเหลว” นายนวพลกล่าว และว่า

เรากำลังเดือดร้อน รัฐไทยกำลังฆ่าประชาชนในทุกวัน ขอให้จับตาในการใช้กฎหมาย สั่งซื้อวัคซีน

จากนั้น “พี ทะลุฟ้า” กล่าวปราศรัย ยืนยันว่า ไม่ควรมีใครถูกใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม จากการแสดงออกทางการเมือง

เวลา 15.04 น. นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือ ยาใจ แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่พวกเราออกมาเรียกร้องทุกวัน เพราะทุกระบบพัง จากระบอบประยุทธ์

เกือบ 1 ปี ยอดติดเชื้อทะลุ 1,000,0000 คน ตายทะลุ 9,000 ถ้าเรายังนิ่งเฉย ไม่ต่างจากการปล่อยปละละเลยให้เกิดการสูญเสียและถูกพรากอิสรภาพ เสรีภาพ ทั้งที่สิ่งต่างๆ ไม่ควรเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดจาการบริหารของรัฐบาลชุดนี้

“ณ วันนี้ กระบวนการต่างๆ กลับเป็นเครื่องมือของประยุทธ์ แทนที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน เราไร้ซึ่งที่พึ่งในการตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐบาล พวกเราต้องการความชัดเจน และต้องการให้รัฐบาลนี้ จัดสรรการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ mRNA ให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน และเป็นธรรม” นายทรงพลกล่าว

นายทรงพลกล่าวต่อว่า ประชาชนควรได้รับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบ จัดการ อำนวย ดูแล รักษา ให้ความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน แต่ทุกวันนี้ เราต้องนอนรอความตาย นั่นคือความจริง แต่เมื่อเราออกมาเรียกร้อง กลับได้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา เพียงแค่เราออกมาแสดงออกตามเจตนารมณ์ และความโกรธแค้นรัฐบาลนี้ นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น พวกเราไร้ซึ่งที่พึ่ง

“การออกมาต่อสู้ในทุกวัน มันพิสูจน์ถึงความเป็นคนที่ถูกกดขี่ และเราจะออกมาต่อต้านให้ถึงที่สุด เมื่อไหร่ที่เกิดการกดขี่ และใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ขอให้ประชาชนทุกคนออกมาต่อต้าน เรียกร้อง เพราะนั่นคือสิทธิของทุกคน และอย่าไปกลัวการกดขี่ที่มาในรูปแบบกฎหมาย เพราะนั่นคือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องยืนยันทุกวันว่า การแสดงออก คือสิ่งถูกต้อง และจำเป็นต้องทำในช่วงนี้ เพราะยิ่งปล่อยประยุทธ์อยู่นานเท่าไหร่ คนก็จะตายมากขึ้นเท่านั้น” นายทรงพลกล่าว

จากนั้น เวลา 15.26 น. “มาย ทะลุฟ้า” กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ถึงเสรีภาพในการแสดงออกด้วยการพูดตามหลักสากล พร้อมยืนยันกติกาสากล ที่ไทยร่วมลงนามเป็นภาคี ซึ่งรัฐบาลไทยจะต้องคุ้มครองสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง โดยห้ามใช้กฎหมายกฎจำกัดสิทธิประชาชน ไม่เช่นนั้น จะถูกต่างชาติตำหนิ ซึ่งก็สามารถทำได้เพียงการประณาม

เวลา 15.34 น. นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก พร้อมด้วยกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ทำการบรรเลง 3 บทเพลง เรียกร้องให้ปล่อยนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกคุมขัง และ เพลงทะลุฟ้า

ขณะเดียวกัน มีกลุ่มวัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมโบกธงชาติ มาร่วมหยุดชู 3 นิ้ว -บีบแตร ส่งกำลังใจการชุมุนุมของกลุ่มทะลุฟ้า