“ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์” ทุ่มเงินลงทุน ผนึกพันธมิตรระดับโลก ตั้งบริษัทลุยขนส่งวัคซีนโควิด-19



นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III  ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรชั้นนำของไทยที่ครอบคลุมธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก การบริหารจัดการโลจิสติกส์ รวมทั้งการให้บริการด้านโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ เปิดเผยว่าตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท (ปี 2562-2564) จะมีการขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจใหม่ 

โดยล่าสุดบริษัทได้จัดตั้งบริษัท Cool Chain Logistics Pte., Ltd. ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ กับพันธมิตรทางธุรกิจต่างชาติ เพื่อรองรับหน่วยธุรกิจใหม่ที่จะให้บริการขนส่งสินค้าประเภทยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งจากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้เกิดโอกาสทางธุรกิจในด้านโลจิสติกส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งวัคซีน รวมถึงชุดทดสอบเชื้อโควิด-19 ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง

ทั้งนี้ บริษัท Cool Chain Logistics Pte., Ltd. จะมีทุนจดทะเบียน 400,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยบริษัท DG Packaging Pte., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ 50% จะเป็นผู้ร่วมดำเนินการจัดตั้งบริษัท Cool Chain Logistics โดยใช้เงินลงทุนจำนวน 200,000 ดอลลาร์สิงคโปร์  ถือหุ้นอัตราส่วน 50% ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรเฉพาะด้านสำหรับอุตสาหกรรมยา และรองรับธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวิทยาศาสตร์ชีวภาพ อาทิ ยาหรือตัวอย่างชีวภาพที่ต้องควบคุมอุณหภูมิตัวอย่างเชื้อโรค ชุดทดสอบเชื้อโรค เวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทยผ่านเครือข่ายธุรกิจในประเทศต่างๆ

นายทิพย์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ Cool Chain Logistics ได้มีการบรรลุข้อตกลงกับ Intelsius ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ระบบ ORCA VIP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับระบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพนับว่าเป็นการยกระดับการให้บริการธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับยาและเวชภัณฑ์โดยเฉพาะ จึงสามารถตอบโจทย์การขนส่งวัคซีนโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

“การลงทุนในครั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีในการขยายธุรกิจของบริษัท โดยจะมุ่งเน้นการขนส่งและกระจายวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมทั่วทวีปเอเชียโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งจะอาศัยจุดแข็งทั้งระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ บริการการตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าแบบ Realtime Track & Trace รวมไปถึงการควบคุมอุณภูมิระหว่างการขนส่งผ่านระบบออนไลน์” นายทิพย์ กล่าว