“ทรัมป์” ทิ้งทวนออกคำสั่งห้ามทำธุรกรรมกับ 8 แอปพลิเคชั่นจีน

  • อ้างเพื่อต่อต้านบริษัทยักษ์ของจีน-สร้างความมั่นคงของชาติ
  • มีผลภายใน 45 วันซึ่งเป็นช่วงที่”ไบเดน” รับตำแหน่งผู้นำใหม่แล้ว
  • จับตาหลังรับตำแหน่ง “ไบเดน” จะยกเลิกคำสั่งหรือเดินหน้าต่อ

บลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯได้ลงนามในคำสั่งห้ามสหรัฐฯธุรกรรมกับ 8 แอปพลิเคชั่นของจีน รวมถึงอาลีเพย์ (Alipay) ของแอนท์ กรุ๊ป (Ant Group Co.) และดิจิทัล วอลเลต ของเทนเซนต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holdings) มีผลภายใน 45 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่แล้ว

คำสั่งดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจประธานาธิบดีครั้งสุดท้ายของนายทรัมป์ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชาติ และต่อต้านบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ว่าจะบังคับใช้หรือไม่ โดยคำสั่งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ทางการจีนได้ระงับการเปิดขายหุ้นไอพีโอ (การเสนอขายหุ้นใหม่ครั้งแรกให้กับประชาชนทั่วไป) มูลค่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของแอนต์ กรุ๊ป ซึ่งมีแจ๊ก หม่า เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และเริ่มสอบสวนการต่อต้านการผูกขาดของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง

ความเคลื่อนไหวของนายทรัมป์ครั้งนี้ ถือเป็นภัยคุกคามความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง จากที่มีความขัดแย้งกันในหลายเรื่องอยู่แล้ว ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 รวมถึงความวุ่นวายในฮ่องกง โดยคำสั่งดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ยกร่างกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงิน และการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของจีน ที่จะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีทั้ง การจ่ายเงินผ่านคิวคิว (QQ) ของเทนเซนต์, คิวคิว วอลเลต (QQ Wallet) และวีแชต (WeChat) รวมถึงแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก อย่าง แคมสแกนเนอร์ (CamScanner), แชร์อิต (SHAREit), วีเมต (VMate) และ ดับบลิวพีเอส ออฟฟิส (WPS Office)

ด้านนายวิลเบอร์ รอส รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า จะดำเนินการตามคำสั่งของประธานาธิบดี “ผมต้องดำเนินการตามคำสั่งของประธานาธิบดี เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของชาวอเมริกันจากการคุกคามของพรรคคอมมิวนิสต์จีน”

ขณะที่นายฮั่ว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่า สหรัฐฯใช้อำนาจในทางมิชอบ และการเป็นคนพาล ดำเนินการที่เป็นอันตรายกับผู้บริโภคชาวอเมริกัน

ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า คำสั่งดังกล่าวอาจเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่ประธานาธิบดีได้ออกคำสั่งบังคับให้บริษัท ไบท์แดนซ์ (ByteDance) ของจีนขาย TikTok ให้กับสหรัฐฯ และห้ามส่งข้อความผ่านวีแชต แต่อยู่ที่นายไบเดน ซึ่งกำลังจะรับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ จะยกเลิก หรือจะเดินหน้าต่อ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า คำสั่งดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับกับการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นของจีนของผู้บริโภคนอกสหรัฐฯหรือไม่ โดยแอปฯวีแชต และอาลีเพย์ มีฐานผู้ใช้หลักอยู่ในประเทศจีนจำนวนมาก ส่วนในสหรัฐฯ ฐานผู้ใช้จะเป็นคนจีนที่มีญาติพี่น้องอยู่ในจีน ซึ่งมีจำนวนมากเช่นกัน หรือภาคธุรกิจอย่าง สตาร์บัคส์ จะอนุญาตให้ลูกค้าในจีนจ่ายเงินผ่านวีแชตได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ ทำให้ราคาหุ้นของอาลีบาบา และเทนเซนต์ ที่ซื้อขายในฮ่องกงร่วงลงมากกว่า 2% ในวันพุธ

ส่วนแคมสแกนเนอร์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจัดการเอกสารต่างๆ ในปี 63 มีการดาวน์โหลดเพื่อติดตั้งมากถึง 4.4 ล้านครั้ง ขณะที่วีแชตของเทนเซนต์ มียอดดาวน์โหลด 1.6 ล้านครั้ง ขณะที่อาลีเพย มีการดาวน์โหลด 207,000 ครั้ง