

- ททท.แจกของวัญปีใหม่ “ไทยเที่ยวไทย” ปี’66 ปรับเป้ารายได้พุ่ง 1 ล้านล้านบาท ดัน 5 ภูมิภาค 7 พื้นที่
- รับโจทย์ท้าทาย “กทม.” นำทัพโกยเงินอันดับ 1 กว่า 2.2 แสนล้าน “อีสาน” ชิงแชมป์ “จำนวนคนเที่ยว” 34.8 ล้านคน-ครั้ง
- ทั้งประเทศเร่งขาย “365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ควบ 2 แคมเปญ Wonder Deal ลดทุกภาคทุกวันกับ Workation ลุยแก้ 3 ปัจจัยฉุดตลาดในประเทศ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.ต้อนรับปี 2566 “ตลาดในประเทศ” เตรียมปรับเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวขยับใหม่เป็น 1 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันตั้งไว้ต้องได้ไม่น้อยกว่า 8.8 แสนล้านบาท เพิ่มจากแผนปกติราว 1.2 แสนล้านบาท จาก “จำนวนผู้เยี่ยมเยือน” ไม่น้อยกว่า 200 ล้านคน-ครั้งขึ้นไป
โดยให้โจทย์ ททท.ในประเทศ ต้องกระตุ้น “จำนวนผู้เยี่ยมเยือน” ตลอดปี 2566 ทำให้ได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านคน-ครั้งขึ้นไป แบ่งสัดส่วน 5 ภูมิภาค กระจายเป็น 7 พื้นที่ ตามลำดับดังนี้

อันดับ 1 ภาคอีสาน 17.4 % (เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยวกันเองใน 20 จังหวัด) คิดเป็น 34.8 ล้านคน-ครั้ง อันดับ2 “กทม.”ไม่ต่ำกว่า 17 % คิดเป็น 34 ล้านคน-ครั้ง อันดับ 3 ภาคเหนือ 15.6 % คิดเป็น 31.2 ล้านคน-ครั้ง อันดับ 4 ภาคตะวันตก 14 % คิดเป็น 28 ล้านคน-ครั้ง อันดับ 5 ภาคใต้ 12.3 % คิดเป็น 24.6 ล้านคน-ครั้ง อันดับ 6 ภาคตะวันออก 11.8 % คิดเป็น 23.6 ล้านคน-ครั้งอันดับ 7 “ภาคกลาง” จังหวัดรอบปริมณฑล 10.5 % คิดเป็น 21 ล้านคน-ครั้ง
ส่วน “รายได้ท่องเที่ยว” เบื้องต้นจากฐานปกติ 8.8 แสนล้านบาท แต่ละพื้นที่ต้องทำได้ตามลำดับดังนี้ อันดับ 1 กรุงเทพฯ เมืองหลวง 220,000 ล้านบาท อันดับ 2 ภาคใต้ 168,000 ล้านบาท อันดับ 3 ภาคตะวันออก 109,000 ล้านบาท อันดับ 4 ภาคเหนือ 156,000 ล้านบาท อันดับ 5 ภาคอีสาน 90,000 ล้านบาท อันดับ 6 ภาคตะวันตก77,000 ล้าน อันดับ 7 ภาคกลาง 58,000 ล้านบาท
ซึ่งการขยับใหม่ “เพิ่มรายได้ในประเทศ” ปี 2566 เป็น 1 ล้านล้านบาท ภายในมกราคมนี้จะเกลี่ยเป้าหมายอีกครั้งตามเหมาะสมพร้อมกับวางแผน “เพิ่มดีมานต์” กระตุ้นด้วย “แคมเปญ” แรง ๆ ได้แก่ เที่ยวเมืองรองต้องลอง ท่องเที่ยวสายมู/สายศรัทธา ท่องเที่ยวอีเวนต์กีฬาและเกิดการเดินทางข้ามภาค การหาพันธมิตรเข้ามาร่วมมือลดต้นทุนกระตุ้นให้คนอยากเดินทางเที่ยวเมืองไทย และการเดินทางอย่างปลอดภัยถูกสุขอนามัย SHA ซึ่งไทยทำได้ดีมาก

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า โครงการใหญ่ขายตลอดปี “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ททท.5 ภูมิภาค ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ต้องทำไปพร้อมกับอีก 2 โครงการ คือ1.Workation Thailand รองรับทุกหน่วยภาครัฐ เอกชน ที่จะเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานและท่องเที่ยวได้และ 2.การท่องเที่ยวเมืองรอง ไม่รู้ลืม
สำหรับ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” แต่ละภาคจะคัดสินค้ากับกิจกรรมเด่น ๆ เสนอขายนักท่องเที่ยวต่อเนื่องทุกวัน โดยมีแคมเปญหลัก “Wonder Deal” วางขายด้วยดีลลดพิเศษมากตลอดทุกภาคทุกวัน ดังนี้

“ภาคเหนือ” จะชูขาย โครงการแรก “Amazing Norhthern Road Trip ขับรถเที่ยวภาคเหนือ” กิจกรรมเด่นจะบอกเล่าเรื่องราวน่าจดจำ และความสวยงาม ทุกเส้นทางการขับรถเที่ยวภาคเหนือ ซึ่งมีความสวยงามแตกต่างกันไป โดยจะเปิดจุดขายใหม่รวบรวม 1.เส้นทางวัยรุ่นขับรถเที่ยว 2.เส้นทางคนวัยทำงาน 3.เส้นทางผู้สูงวัยหัวใจเกินร้อย เพื่อให้เกิดความต้องการเดินทางและเพิ่มวันพักค้างคืน
โครงการที่ 2 มหามงคลสักการะพระธาตุปีเถาะ ปลุกกระแสตลาดท่องเที่ยวสายมูเตลู/สายศรัทธา โดยจะทำกิจกรรม“4 ครูบา 5 พระเจ้า 9 พระธาตุ เป็นเส้นทางตามรอยเสริมบุญบารมีปีเถาะปีกระต่าย นำเสนอขายตลอดปีทั้ง 3 เส้นทาง
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” บูมขาย โครงการแรก “365 วันเที่ยวอีสานได้ทุกวัน” เปิดให้นักท่องเที่ยวดีไซน์การเดินทางได้ด้วยตัวเอง ใช้โซเชียลมีเดีย อินฟลูเอนเซอร์ เข้ามาช่วยดึงดูดเครือข่ายนักเดินทาง โครงการที่ 2 “เที่ยวเทศกาล/Festival” เทศกาลเมืองเชียงคาน จ.เลย เทศกาลเที่ยวกินเส้น ท้าดวลกินได้ทุกวัน กินปุ๊บรับโชคปั๊บ
“ภาคใต้” เที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ เที่ยวได้ 365 วัน เช่น ภูเก็ต 365 คัลเลอร์ฟูล เดย์ ต่อด้วย “นครศรีธรรมราช” มีกิจกรรม “มานะ มานคร” เป็นเมืองจุดหมายแห่งสายศรัทธา
“ภาคกลาง” ทำโครงการ “มหัศจรรย์เมืองไทย สวยแบบตะโกน” ตรงกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคนี้ที่เน้นไปพื้นที่ใดก็จะอัพเดทผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเอง เตรียมชวนนักท่องเที่ยวอัพโหลดคลิป “365 วันเที่ยวได้ทุกวัน” เพื่อลุ้นรับรางวัลไปท่องเที่ยวต่อในพื้นที่อื่น ๆ
“ภาคตะวันออก” ชูกิจกรรม 365 วันเที่ยวอีเวนต์กีฬาและอาหาร เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วทั้งภาคได้ง่าย จัดมหกรรมแต่ละวันเปิดแต่ละพื้นที่คึกคักทุกวัน

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ปี 2566 จะขยายความร่วมมือเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว กับเครือข่ายเกี่ยวข้องอย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม จัดอีเวนต์ต่าง ๆ เติมเต็มโครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ตอบโจทย์เป้าหมาย 1.กระจายนักท่องเที่ยวไปยังทุกพื้นที่ครบ 5 ภูมิภาค 2.เพิ่มรายได้ลงสู่เศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างทั่วถึง 3.เพิ่มวันพักค้างในโรงแรม รีสอร์ต ในเมืองหลัก เมืองรอง
ส่วน “ปัจจัยฉุดท่องเที่ยวในประเทศ” ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับททท.ได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด สนับสนุนการท่องเที่ยวต่างกันไป โดย ททท.จะเลือกสนับสนุนส่งเสริมอีเวนต์เด่น ๆ ตลอดทั้งปี พร้อมกับแก้โจทย์ใหญ่ปี 2566 ต้องทำเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1 ภาวะเงินเฟ้อทำให้คนต้องประหยัดเงิน ภายใต้สถานการณ์ ค่าเดินทาง แพกเกจท่องเที่ยว ที่พัก ตั๋วเครื่องบินสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น นั้น มาตรการแรก คณะรัฐมนตรี (ครม.) นำร่องมติเห็นชอบคืน “ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิงการบินให้สายการบินในประเทศ” แล้วสายการบินก็นำมาทำโปรโมชั่นลดค่าตั๋วเครื่องบิน 20 % ให้นักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ เริ่มมกราคม 2566 รวมถึงทาง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รณรงค์ให้เครือข่ายสมาคมสมาชิกลดค่าประกันการเดินทาง ประกันอุบัติ 1 คน ได้สิทธิ์ 3 วัน จำนวนปีละ 10 ล้านสิทธิ์

เรื่องที่ 2 สิทธิของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก ทั่วประเทศ จะมีมาตรการช่วยลดต้นทุนปี2566 ขณะนี้สมาคมโรงแรมไทย (THA) ยื่นขอผ่านงบประมาณ Booster Shot ซึ่งบางโครงการได้รับอนุมัติแล้ว เช่นงบจ้างบุคลากร สามารถจ้างจากประเทศเพื่อนบ้านได้ ส่วน “การลดค่าไฟฟ้า” อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา รัฐบาลจะประกาศออกมาเป็นระลอก
เรื่องที่ 3 เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จะเป็นกระสุนกระตุ้นการเดินทาง เตรียมคลิกออฟไตรมาส 1 ปี 2566 ททท.กำลังขยายโรงแรมเข้ามาร่วมขายมากขึ้น เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และอีเวนต์การตลาดเทรนด์ใหม่ทั้ง ททท.ทำเองและสนับสนุนตอบโจทย์การเดินทางที่มีความหมาย Meaningful Travel ดังนั้นจะเกิดอีเวนต์งานเทศกาลทั่วประเทศตลอดทั้งปีอย่างชัดเจน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen