- ททท.ประเดิมเฟส 2 โปรเจกต์ “มิชลินไกด์ อีสาน 4 จังหวัด” เปิดปี’66 แจกรางวัล “บิบ กูร์มองด์” 33 ร้านดัง
- เร่งสร้างจุดขาย ซอฟท์ เพาเวอร์ F-Food ดันไทยผงาดจุดหมายท่องเที่ยวเชิงอาหารโลก
- โชว์ผลวิจัยเฟสแรก ปี’61-63 สร้างเศรษฐกิจอู้ฟู่กว่า 842 ล้าน จ้างงานพุ่ง 4,800 ตำแหน่ง
- เฟสใหม่ปี’65 ต่างชาติเที่ยวไทย 89% กินแล้วบอกต่อ อีก 94 % ขยายเส้นทางไปกินในพื้นที่อื่นเพิ่มทั่วประเทศ
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ประกาศเปิดตัว “THE MICHELIN EXPERIENCE @ ISAN มิชลินถิ่นอีสาน” ต่อยอด Soft Power of Thailand ให้เป็นการท่องเที่ยวมูลค่าสูงโดยได้มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2566 จำตัวแทนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด จำนวน 33 ราย เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy Tourism ขานรับการก้าวสู่ปีที่ 2 ของปีท่องเที่ยวไทย 2566
ตามที่ ททท. ได้สนับสนุนโครงการ The MICHELIN Guide Thailand ต่อเนื่องเฟสที่ 2 ระหว่างปี 2565-2569 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ผลักดันซอฟท์ เพาเวอร์ ทางด้านอาหาร/F-Food หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทยที่โดดเด่นและแข็งแกร่ง ในปี 2566 จึงได้จัดทำหนังสือคู่มือปีที่ 6 ขยายพื้นที่สำรวจสู่ตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด คืออุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเต็มรูปแบบ และกระตุ้นให้เกิดการยกระดับและพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Shape Supply) ให้พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ
ททท. ได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแสดงความยินดีกับธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับการจัดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับปี 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 6 ของไทย ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา 9 ร้าน ขอนแก่น 11 ร้าน ในจังหวัด อุบลราชธานี 6 ร้าน และ อุดรธานี 7 ร้าน ควบคู่กับการนำเสนอวัฒนธรรมอาหารอีสานเสิร์ฟเมนูอาหารเลิศรสของมิชลินในอุดรธานีจาก 7 ร้าน ประกอบด้วย แหนมเนืองและพันหอม จากร้าน VT แหนมเนือง เมี่ยงทอดมัจฉาและปลาทับทิมอกแตก จากสวนอาหารมัจฉาผาสุข ปลาส้มทอด แกงคั่วหอยขม และข้าวเหนียวห่อใบตอง จากครัวคุณนิด ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นและข้าวหน้าเป็ด จากร้านเป้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ขนมปังสามสหายและสตูซี่โครงหมู จากร้านมาดามพาเท่ห์ 2515 เมี่ยงทอดและแหนมคลุก จากร้านอรุณีแหนมเนือง แซลมอนแช่น้ำปลาร้า และพวงนมทอดกระเทียม จากร้านลาบนัว
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานเฟสที่ 1 โครงการ The MICHELIN Guide Thailand ประจำปี 2560 – 2563 ททท. จัดทำวิจัยและสำรวจ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 โดย บริษัท เคเนติกส์ คอนซัลติ้ง จำกัด และครั้งที่ 2 โดย Erst & Young (EY) พบว่า โครงการนี้สร้างมูลค่าส่วนเพิ่มด้านอาหารของไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากถึง 842.40 ล้านบาท เกิดการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกว่า 4,800 ตำแหน่ง สามารถดึงดูดเชฟชั้นนำชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาทำงานด้านอาหารและลงทุนเปิดร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในไทยเพิ่มมากขึ้น
ส่วนปี 2565 ททท. ได้ทำประเมินผลการท่องเที่ยวด้านอาหารและโครงการ The MICHELIN Guide Thailand อีก 1 ครั้ง โดย บริษัท เคเนติกส์ คอนซัลติ้ง จำกัด พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มที่เคยได้รับประสบการณ์ที่ร้านอาหารมิชลินมีพฤติกรรมและทัศนคติที่ดีทั้งต่อร้านอาหารและประเทศไทยเรื่องอื่น ๆ ทั้งด้าน
การประชาสัมพันธ์ และเศรษฐกิจ เช่น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 98 % ที่เคยได้รับประทานอาหารมิชลินแล้ว จะแนะนำต่อ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 94 % เคยได้รับประทานอาหารมิชลินแล้วจะเดินทางไปลองร้านมิชลินอื่น ๆ ในไทยด้วย
ขณะเดียวกัน ททท. ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรสายการบิน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด สนับสนุน
การเดินทางของคณะสื่อมวลชนทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ที่เข้าร่วมผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารในพื้นที่อุดรธานี รวมทั้งกำลังส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร เพื่อสัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมอาหารเชื่อมโยงภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้ ททท.ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก หรือ The MICHELIN Green Star มอบแก่ร้านอาหารที่ส่งมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม โดยคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย2566’ ประกอบด้วย 3 ร้าน ได้แก่ ในภูเก็ต 2 ร้าน คือ ร้านพรุ/PRU กับร้านจำปา และกรุงเทพฯ คือร้าน Haoma ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาเป็นร้านอาหารคุณภาพยกระดับวัตถุดิบของไทย มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Zero Food Waste) เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมผ่านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงอาหารของตลาดโลกในอนาคตต่อไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
