ททท.ลั่นเที่ยวไทยครึ่งปีแรกตุนรายได้เกิน 3 แสนล้านครึ่งปีหลังขาย 6 โปรเจกต์พ่วง TTM Plus ลุยเปิดอันซีน



  • ททท.มั่นใจเที่ยวไทยครี่งปีแรก..65-มี..66โกยรายไดเกิน3แสนล้านโชว์แผนลุยครึ่งปีหลังไตรมาส3-4ติดเทอร์โบ5ภูมิภาค
  • ทุ่มลงทุน6โครงการวิจิตร5ภาคอลังการปลายเม..-ต้นมิ.. “Workation 100เดียวเที่ยวได้งาน
  • เปิดกระหึ่มซอฟท์ เพาเวอร์ ปีท่องเที่ยวเชิงอาหาร พ.ค.66 ใช้ TTM Plus 2023 พ่วงขาย 5 ภาคเปิดUnseen New Chapters ใหม่ล่าสุด 25 แห่ง

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้ประเมินสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวในประเทศซึ่งบางพื้นที่จัดมาจนถึงสัปดาห์สุดท้ายเดือนเมษายนนี้ส่งผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศผู้ประกอบการทั่วประเทศ 5 ภูมิภาคทั้ง 77 จังหวัด มีความเป็นไปได้จะทำเงินได้กว่า50,000 ล้านบาท ส่วนห้องพักโรงแรมสามารถทำอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR :Occupacy Rate) กระจายในเมืองท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดที่พักระดับ 4-5 ดาว อย่าง หัวหิน .ประจวบคีรีขันธ์ ทำได้สูงถึง 90% ส่วนค่าเฉลี่ยเข้าพักทั่วประเทศประมาณ 70-80 % รายได้ส่วนใหญ่มาจากตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ

รวมทั้งได้ประเมินสถานการณ์ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในประเทศ “ครึ่งปีแรก” ปีงบประมาณ 2566 ระหว่างตุลาคม2565-มีนาคม 2566 น่าจะทำได้เกินกว่า 3 แสนล้านบาทแล้ว จากเป้าตลอดทั้งปี 2566 ตั้งไว้ 8.8 แสนล้านบาทและ “ครึ่งปีหลัง” อีก 6 เดือน เมษายนกันยายน 2566 ไม่น่าเป็นห่วงเพราะสถิติปี 2565 เคยทำได้รวมเกิน 9 แสนล้านบาท แต่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ต่ำกว่าปีก่อนเพราะทั่วโลกเปิดประเทศแล้ว จึงทำให้คนไทยบางส่วนเลือกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแทนในประเทศบ้างจึงต้องตั้งเป้าตามความเป็นจริง

ส่วนแผนการตลาดหลังสงกรานต์ ไตรมาสที่ 3 เมษายนมิถุนายน และไตรมาส 4 กรกฎาคมกันยายน 2566 เตรียมใช้โครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ประกอบด้วย 6 กิจกรรมหลัก ได้แก่กิจกรรมที่ 1 งานวิจิตรภาค จัดยิ่งใหญ่แสงสีเสียง ใน กรุงเทพฯ นครพนม นครศรีธรรมราช ระยอง และเชียงราย กิจกรรมที่ 2 Workation Thailand 100 เดียว เที่ยวได้งาน ไฮไลต์วันที่ 5 เดือน 5 กิจกรรมที่ 3 Soft Power เตรียมเปิดตัวปีแห่งการท่องเที่ยวอาหารหรือ Year of Gastronomy และแคมเปญแต่งไทยไปเที่ยว กิจกรรมที่ 4 The Link เชื่อมโยงการท่องเที่ยวท้องถิ่นสู่นานาชาติหรือ Local to Global กิจกรรมที่ 5 มหกรรมเที่ยวข้ามภาค กิจกรรมที่ 6 เทศกาลเที่ยวเมืองไทย

กิจกรรมแรก “วิจิตร 5 ภาค” ทั้ง 5 จังหวัด สร้างสรรค์ไฮไลต์ต่างกันโดยจะเน้นวิจิตรความตระการตา น่าชื่นชมและติดตาม เพื่อดึงคนเดินทางไปซ้ำ   ในแต่ละพื้นที่จะต้องตอบโจทย์ 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 เพิ่มวันพักค้างคืน เพิ่มขึ้นเป็นกว่า  3 วัน/คน/ทริป จากปกติเฉลี่ย 2.3 วัน/คน/ทริป เรื่องที่ 2 เพิ่มอัตราเข้าพักเฉลี่ยตามโรงแรมได้เกินกว่า 70 % เรื่องที่ 3 เพิ่มการใช้จ่ายเงินเฉพาะช่วงงานได้ถึง 4,200 บาท/คน/ทริป จากปกติ 2,800-3,200 บาท/คน/ทริป มาจากวันพักค้างคืนตลอดงาน 9 วัน ผนวกเงินช้อปปิ้งสินค้าในงาน รวมทั้งเกิดการท่องเที่ยวข้ามภาคด้วย

นำร่อง “ภาคกลาง” จัดในกรุงเทพฯ 29 เมษายน-7 พฤษภาคม นี้ กระจาย 3 พื้นที่ คือ ไอคอนสยาม ไปรษณีย์กลางบางรัก และสวนรถไฟ “ภาคเหนือ” ระหว่าง 20-28 พฤษภาคม จัดที่เชียงราย “ภาคใต้” ระหว่าง ระหว่าง 20-28 พฤษภาคม ที่นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง ไปตามถนนความยาวหลายกิโลเมตร เน้นศิลปะสร้างสรรค์ และย้อมไฟสวยงามบริเวณกำแพงเมืองเก่า “ภาคตะวันออก” ระหว่าง 27 พฤษภาคม-4มิถุนายน บริเวณเจดีย์กลางน้ำ ป่าชายเลน ระยอง ชูการผจญภัยกลางน้ำ “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ระหว่าง 27 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน ที่นครพนม เป็น Lighting Mapping ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านจาก สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามาเที่ยวด้วย

นอกเหนือจากไฮไลต์ Lighting Mapping แสง สี เสียง แล้วยังจะมี Telling Story และจัดกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม ดนตรี และเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้ประโยชน์จากการจัดงาน ดีไซน์ถนนคนเดิน ส่งเสริมการขาย พร้อมคูปองมอบเป็นส่วนลดพิเศษให้นักท่องเที่ยว

กิจกรรมที่ 2 “Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน กระหน่ำแจกต่อเนื่อง 5 เดือน เริ่มด้วยโปรใหญ่เปิด 5 เดือน 5 , 6 เดือน 6, 7 เดือน 7 ,8 เดือน 8 และ 9 เดือน 9 (กันยายน 2566) เพื่อสนับสนุนให้คนวัยทำงานในหน่วยงานภาครัฐเอกชน เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยแล้วทำงานได้ด้วย โดย ททท.จะนำเสนอสถานประกอบการ ที่พักใหม่ในราคาพิเศษที่จะต้องว้าวอย่างแน่นอน

กิจกรรมที่ 3 Soft Power เตรียมเปิดตัวปีแห่งการท่องเที่ยวอาหารหรือ Year of Gastronomy และแคมเปญแต่งไทยไปเที่ยว จะได้เห็นสีสันบรรยากาศแตกต่างกันพร้อมรับโปรโมชั่นมากมาย

กิจกรรมที่ 4 เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปีนี้จะจัดในเดือนสิงหาคม 2566 ในรูปแบบ ลิมิตเต็ด เอดิชั่น มีงานนี้งานเดียวหาที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว ขณะนี้แต่ละภูมิภาคกำลังไปคัดเลือกเส้นทาง

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ททท.ในประเทศยังเตรียมเสริมทัพขายท่องเที่ยวในมหกรรมงาน Thailand Travel Mart Plus 2023 :TTM + จะจัดระหว่าง 31 พฤษภาคม -2 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมีบริษัทตัวแทนซื้อการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 300-500 คน ตลาดในประเทศ จึงได้วางแผนผนวกนำงาน “มหกรรมท่องเที่ยวข้ามภาค” จัดขึ้นในกรุงเทพฯ  ด้วย เพื่อเชิญชวนผู้ประกอบการในไทยมาร่วมออกบูธแล้วเปิดให้ต่างชาติได้เห็นสินค้าท่องเที่ยวของไทยทั้งประเทศ รวมทั้งเป็นช่วงโปรโมตขาย Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน ชูจุดขาย Workation Paradise throughout Thailand ปูพรมให้นานาประเทศเห็นศักยภาพเมืองไทยเป็นสวรรค์ของคนทั่วโลกที่อยากเข้ามาเลือกใช้เป็นสถานที่ทำงาน

พร้อมทั้งจะเปิดพื้นที่ให้หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หน่วยงานดาราศาสตร์ (NARIS) ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวท้องฟ้ามืด และอื่น มาร่วมออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์ ทำให้คู่ค้าท่องเที่ยวที่มางาน TTM Plus ได้เห็นศักยภาพสินค้าท่องเที่ยวของไทยเป็นตัวแทนขายให้ตลาดต่างประเทศต่อไป

ไฮไลต์อีกเรื่องจะเปิดตัวโครงการ “Unseen New Chapters” ใหม่ ทั่วประเทศอีก 25 แห่ง ขณะนี้ได้รับรายชื่อจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 แห่ง เสนอชื่อแหล่งท่องเที่ยว Unseen ประจำปี 2566 มายัง ททท.เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนคัดเลือกให้เหลือ 25 แห่ง แล้วจะนำเสนอในงาน TTM Plus 2023 เพื่อให้ทั้งไทยและทั่วโลกได้รู้จักพร้อม กัน

คอนเซปต์แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับคัดเลือกประกาศเป็น Unseen New Chapters จะต้องมีคุณสมบัติสามารถบริหารจัดการเรื่องบริหารจัดการโดยชุมชนแล้วดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่ง ททท.ได้เพิ่มความเข้มข้นเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen