- ททท.ลั่นปี’66 ทัวร์จีนเที่ยวไทยเหนียวแน่นตามเป้า 5.3 ล้านคน หอบเงินใช้จ่าย 4.46 แสนล้านบาท
- ทุ่มลงทุนทำหนังโฆษณาสุดปัง “Unboxing Thailand 2023” ผ่านทุกช่องทางดิจิทัล ตั้งเป้าเพิ่มตลาดGen Y, Z กลุ่มF.I.T.แฮปปี้ใช้เงินเฉลี่ย 52,000 บาท/คน/ทริป
- เม.ย.-ต.ค.นี้มีเที่ยวบินเข้าออกกว่า 6.1 ล้านที่นั่ง เร่งเดินหน้าเคลียร์ 3 ปม “จีนเทา–วีซ่ามาเป็นกรุ๊ป–รถสาธารณะหลอกลวง”
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.ได้นำเสนอสถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2566 ตั้งเป้าจะฟื้นจำนวนกลับมาให้ได้ 5.3 ล้านคน ทำรายได้ประมาณ 446,000 ล้านบาท ล่าสุดผลิตหนังโฆษณาชุด Unboxing Thailand 2023 เผยแพร่ตั้งแต่ 18 เมษายน เป็นต้นมา มุ่งเจาะตลาดคนรุ่นใหม่เดินทางอิสระด้วยตนเอง (F.I.T.) กลุ่ม Gen Y & Z เป็นคลิปมิวสิควิดีโอโชว์พลังซอฟท์ เพาเวอร์บอกเล่าประสบการณ์ผ่านบทเพลงโดยใช้ศัพท์วัยรุ่น 4 คำ “จุ๊ยซี่” สื่อถึงการลิ้มรสอาหารไทย ผลไม้อร่อยตามฤดูกาล “จึ้ง” วัฒนธรรมดั้งเดิมและร่วมสมัยอย่างสตรีทอาร์ท “ต๊าซ” แฟชั่นหลายรูปแบบ และ “เต็มคาราเบล” สไตล์พักผ่อนสุดเอ็กซสตรีม
เลือกสื่อสารหนังโฆษณาชุดนี้ในตลาดจีน ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.ทางออนไลน์ของ ททท.ในจีน 5 สำนักงาน ปักกิ่งเซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กวางโจว เฉินตู 2.ผ่านออนไลน์ในจีนไม่น้อยกว่า 4 แพลตฟอร์ม เช่น Tenent ซึ่งมีทั้งแอพลิเคชั่นQQSeries, WeChat และออนไลน์วิดีโอ เช่น Tencent lQiYi เรื่อยไปจนถึง Baidu และ Doyin
ส่วนในประเทศเผยแพร่ผ่าน4ช่องทางได้แก่ช่องทางที่1ออนไลน์Amazing Thailandทั้งเฟซบุ๊คทวิตเตอร์อินสตาแกรมยูทูบTikTokเว็บไซต์TAT Newsช่องทางที่2สื่อในเมืองไทยช่องทางที่3พันธมิตรกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า)สมาคมโรงแรมไทยช่องทางที่4ผู้มีอิทธิพลทางการตลาดหรือInfluencer Marketingทำเป็นวิดีโอChallengeเต้นประกอบเพลงUnboxing Thailandลงในโซเชียลมีเดียวส่วนตัวนำศิลปินเตนล์–ชิตพลสมาชิกวงWayV เตรียมเผยแพร่25 เมษายน 2566ผ่านอินสตาแกรม TikTok Douyin
กระแสตอบรับจากตลาดจีนในเชิงบวกตั้งแต่ 18 เมษายน –พฤษภาคม 2566 มีคนเข้ามาชมกว่า 2 ล้านครั้ง และยังติดเทรนด์แอชแท็กในแพลตฟอร์ม ทวิตเตอร์ #AmazingThailandxTEN หลังโพสต์ลงไม่กี่ชั่วโมงมีผู้ร่วมทวิตกว่า 1 แสนครั้ง แล้วยังมีความเห็นของชาวจีนบนแพลตฟอร์ม Douyin สอบถามถึงศิลปิน์ที่ ททท.นำมาประชาสัมพันธ์ชุดนี้
นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท.เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ช่วงปลายปีนี้ตั้งแต่ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยเดือนละ 1 ล้านคน หลังจากมีสัญญาณดีช่วง 4 เดือนแรก 1 มกราคม -30 เมษายน ปีนี้ เดินทางมาแล้วยอดสะสมรวม 843,920 คน เฉลี่ยเดือนละเกือบ 300,000 แสนคน หลังโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงสัดส่วนเดินทางอิสระ (F.I.T.) 50 % และหมู่คณะ/กรุ๊ป(G.I.T.) 50 % ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 52,000 บาท/คน/ทริป
ขณะนี้มีเที่ยวบินบินตรงแบบประจำ ไป–กลับ ระหว่างสาธาณรัฐประชาชนจีนมายังไทย ระหว่างเมษายน–ตุลาคม2566 รวมทั้งหมด 6,129,320 ที่นั่ง ด้วยจำนวนเที่ยวบินรวมทั้งหมด 33,843 เที่ยว ตั้งแต่เมษายนปีนี้ มีมากถึง634,749 ที่นั่ง แล้วจะเพิ่มเป็นสูงเกือบเดือนละ 1 ล้านที่นั่ง เริ่มตั้งแต่กรกฎาคม 932,812 ที่นั่ง สิงหาคม 930,726 ที่นั่ง กันยายน 902,461 ที่นั่ง และตุลาคม อีก 840,260 ที่นั่ง
ส่วนการแก้ไขปัญหาซึ่งเป็น “ปัจจัยลบ” ที่อาจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีนกลุ่มที่ยังไม่เคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย มี 3 เรื่องหลัก คือ เรื่องที่ 1 กระแสข่าวการจับกุมจีนเทาที่เข้ามาทำผิดกฎหมาย เรื่องที่ 2 เงื่อนไขการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยถูกร้องเรียนยื่นขอได้แบบเดี่ยวเท่านั้น หากจะขอเดินทางเป็นกรุ๊ปมีขั้นตอนยุ่งยากไม่สะดวกเท่าที่ควร เรื่องที่ 3 บริการรถสาธารณะ แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก ซึ่งเผยแพร่ในโซเชียลโดยนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาแล้วโดนหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบ
นายชูวิทย์กล่าวว่า ททท.จะร่วมกับสถานฑูตจีนประจำประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับนำ influencer จีน 90 ราย มาร่วมเวทีวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ถึงการท่องเที่ยวของจีนในไทยอย่างปลอดภัย เดินทาง ควบคู่กับจะนำข้อเสนอของแต่ละฝ่ายเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ต้นทางให้นักท่องเที่ยวจีนเรียนรู้อย่างเข้าใจถึงวิธี ขั้นตอน การเดินทางและเลือกใช้บริการเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป
รวมทั้งจะรณรงค์ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย (supply site) หันมาให้ความสำคัญกับการต้อนรับอย่างเป็นมิตรกับจีนเต็มรูปแบบด้วย สอดคล้องกับปัจจุบันจีนเป็นตลาดคุณภาพ ทุกคนใช้จ่ายเงินเฉลี่ยสูงถึง 52,000 บาท/คน/ทริป ถึงแม้จะมีกระแสทัวร์ศูนย์เหรียญเกิดขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายดังกล่าว ส่วนใหญ่แล้วจีนจะนิยมมาไทยแล้วทำกระแสนิยม 5 กิจกรรม ได้แก่ เที่ยวทะเล กินผลไม้ กินอาหารไทย แต่งไทย และช้อปปิ้ง
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนซื้อขายโปรแกรมท่องเที่ยวเมืองไทย 3 ช่องทางหลัก คือ ออนไลน์ 60 % แอพลิเคชั่นท่องเที่ยว30 % และบริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยว 10 % โดยมีนักท่องเที่ยวแบ่งตามพื้นที่เป็น 4 ระดับ คือ ระดับ 1 มาจากมณฑลขนาดใหญ่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เดินทางมาเที่ยวซ้ำคุ้นเคยกับเมืองไทยเป็นอย่างดี ระดับ 2-3-4 มาจากมณฑลอื่น ๆ เป็นกลุ่มเดินทางครั้งแรก ทั้งคนรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งจะมีพฤติกรรมต่างกันไป
ระหว่างมกราคม–เมษายน 2566 ททท.ได้นำเอกชนไทยจัดเมกะแฟมทิปและเดินทางไปทำโรดโชว์ในจีน 3 กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมแรก Amazing Thailand Mega FAM trip to Phangnga 2023 เมื่อ 18-21 มีนาคมททท.สำนักงานในจีน 5 แห่ง นำผู้ประกอบการและสื่อมวลชนเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองในพังงาและพื้นที่อันดามัน กิจกรรมที่สอง Amazing Thailand Roadsheo to China 2023, Phuket &The Andaman เมื่อ19,19,21 เมษายน ที่มณฑลฉงชิ่ง ปักกิ่ง หนานจิง และจัดใหญ่ต่อเนื่องอีก 1 กิจกรรม คือ Ant Group & TAT ,The Only One Amazing Thailand to the World ระหว่าเมษายน–สิงหาคม 2566 โดยร่วมกับแพลตฟอร์ม Alipay+ ให้สิทธิ์ผู้ใช้บริการได้รับส่วนลดสินค้าท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย โดยเฉพาะพื้นที่หลัก กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
