

- ททท.ภาคเหนือรับโจทย์ใหม่ปี’66 เพิ่มเป้ารายได้ 1.56 แสนล้านบาท ต่อยอดพลัง Soft Power 5F
- บูม 4 กิจกรรมทำเงิน “North Exclusive- North Experience-เสน่ห์กินริมแม่น้ำ6สาย- Amazing North Road Trip
- ชู 5 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน ชิง 3 เซกเมนท์มาแรง “เจนวาย-มิลเลนเนียล-สูงวัย”
- ตั้ง “เชียงใหม่” ฮับทัวร์จีนภาคเหนือ ตอนนี้แอร์ไลน์แห่แล้วกว่า 20,000 ที่นั่ง เปิดทางบกเพิ่มตลาดโร้ดทริป
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) เปิดเผยว่าได้ประชุมตลาดในประเทศครั้งล่าสุดยังคงเป้าหมายปี 2566 ภาพรวมทั้งประเทศจะทำยอดจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 135 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 880,000 ล้านบาท ในส่วนของภาคเหนือได้รับโจทย์ใหม่จะต้องมีผู้เยี่ยมเยือน 21.5 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 156,190 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มสูงกว่าปี 2565 ทำรายได้ไว้ 125,835 ล้านบาท เมื่อนำไปเทียบกับปี 2562 เป้าหมายปี 2566 จะสูงกว่าปีฐานปกติแล้ว เป็นผลมาจากตั้งแต่เปิดประเทศมีนักเดินทางเข้าไปสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไตรมาส 3 และ 4 ปี 2565 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพา “อัตราการเข้าพัก/OR :Occupacy Rate” เกินกว่า 50 %
ปี 2566 จึงชูโรงโครงการ “ปีท่องเที่ยวไทย” บวกกับ “พฤติกรรมนักท่องเที่ยว” เปลี่ยนแปลงไป ภาคเหนือจึงได้ปรับสินค้าท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่เน้นจุดขายเรื่องการท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและความหมายหรือMeaningful Travel เช่น มาเที่ยวภาคเหนือยุคใหม่ เคยมารับประทานอาหาร ก็สามารถ “ต่อยอด” เรื่องราวเกี่ยวข้องได้คือเพิ่มเรื่องการเรียนรู้วัตถุดิบอาหาร หรือเป็นผลิตภัณฑ์มีแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์/GI เมนูมิชลิน และอื่นๆ อีกหลายมิติ

พร้อมกับนำเสนอจุดเด่นพลัง Soft Power F1-Food/อาหารภาคเหนือ ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ Fashion/การแต่งกาย ซึ่งมีกว่า 100 ชาติพันธุ์มีดีไซน์สวยงามต่างกันซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คนรุ่นใหม่นำมาดีไซน์เก๋ ๆ สวมใส่ได้อย่างมีคุณค่า
ส่วนกลยุทธ์สร้าง “เมนูประสบการณ์” บวกเข้ากับ “Soft Power” ภาคเหนือได้ทำหลักเพื่อสร้างรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์ใหม่ปีนี้ด้วย 4 กิจกรรม ประกอบด้วย
กิจกรรมที่ 1 North X clusive เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยว “ใช้จ่ายเงิน” ในการรับประทานอาหาร แฟชั่น ที่พักเก๋ ๆ โดยจะแจกกระเป๋าแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น
กิจกรรมที่ 2 North Experience Festival เพิ่มประสบการณ์เดินทางภาคเหนืออย่างลึกซึ้งวิถีไทย อย่าง จังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย เป็น “คำพ้องไทย” ที่แต่ละจังหวัดมีสินค้าจุดเด่นแตกต่างกัน เรื่องชนชาติพันธุ์มีความคลาสสิกความเป็นมา ความรุ่งเรือง ไม่เหมือนกัน หรือ “เชียงใหม่” ก็จะมี “ภิรมย์ล้านนา”
กิจกรรมที่ 3 เสน่ห์กินริมแม่น้ำภาคเหนือตอนล่าง 6 สาย ปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ป่าสัก แต่ละชุมชน แต่ละจังหวัด ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน จะมีเรื่องราวอาหารต่างกัน เช่น อุทัยธานี มีเมนูปลาแรดซึ่งไม่มีที่ใดรสชาติเทียบชั้นได้

กิจกรรมที่ 4 Amazing Northern Road Trip การขับรถท่องเที่ยวภาคเหนือ ตามผลวิจัยพบว่ามีนักเดินทาง 70-80 % ขับรถมาเที่ยวภาคเหนือ จากเหนือเที่ยวเหนือด้วยกัน และภาคอื่นเที่ยวเหนือ โดย ททท.ได้ผูกเส้นทางเด่น ๆ ไว้รอรับนักท่องเที่ยว 3-4 เส้นทาง ได้แก่ วัยรุ่นเที่ยวกับเพื่อน คนสูงวัยสายมู/สายกิน ครอบครัว/เที่ยวธรรมชาติพื้นที่ต่าง ๆจะมีพิกัดแผนที่แวะกิน แวะเที่ยว แวะช้อป ระหว่างการท่องเที่ยวแต่ละเส้นทาง
นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่า ช่วงระหว่างมีนาคม-พฤษภาคม 2566 เป็นช่วงรอยต่อฤดูท่องเที่วด้วยการเลือกกลุ่มเป้าหมายตามเซกเมนท์ขนาดตลาดต่างกันในจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก หากตั้งเป้าเพิ่มยอดใช้เงินท่องเที่ยวสูง จะต้องเจาะตลาดเทรนด์มาแรง 3 เซกเมนท์หลัก ได้แก่
เซกเมนท์ที่ 1 กลุ่มนักเดินทาง Gen Y มีส่วนแบ่งตลาด 34-35 % ชอบกิจกรรมถ่ายรูป ช้อปปิ้ง รับประทานร้านอาหารเก๋ ๆ ขับรถเที่ยว ใช้จ่ายเงิน 5,672 บาท/ทริป มีวันพักเฉลี่ย 1.9 วัน/คน/ทริป
เซกเมนท์ที่ 2 มิลเลนเนียล แฟมิลี่ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10 % ใช้จ่ายเฉลี่ย 6,028 บาท/ทริป พักเฉลี่ยเกินกว่า2.09 วัน/ทริป ชื่นชอบกิจกรรมทำ D.I.Y.งานคราฟท์/ศิลปะหัตกรรม ซึ่งเหมาะกับภาคเหนือ
เซกเมนท์ที่ 3 ผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด7-8 % แนวโน้มอนาคตอันใกล้นี้ขนาดตลาดจะใหญ่ขึ้นมาก ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวกว่า 4,321 บาท/คน/ทริป มีวันพักเฉลี่ย 1.72 วัน/ทริป แล้วยังเข้ามาเสริมการขาย “เที่ยววันธรรมดา” ซึ่งชื่นชอบ ถ่ายรูป รับประทานอาหารถิ่น ไหว้พระ ท่องเที่ยวศาสนสถานต่าง ๆ

ช่วงเดือนมีนาคม 2566 จังหวัด “น่าน” จะสามารถนำงาน “ท่องเที่ยวนมัสการพระธาตุต่าง ๆ” มานำเสนอขายทั้ง 3 เซกเมนท์นี้ได้ เริ่มจากจัดกิจกรรม “กระต่ายล่องน่าน” จะมีไหว้พระธาตุคนปีเถาะ พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน กับ “จังหวัดแพร่” มีการจัดงานไหว้พระธาตุช่อแฮปลายเดือนมีนาคมนี้
“เชียงราย” มาแรงมากตั้งแต่ปลายปี 2565 มีกิจกรรมดอกไม้ ชาติพันธุ์ ตอนนี้มีตกแต่งประดับไฟ อย่าง Light of Life แม่ฟ้าหลวง จากนั้นเมษายนเที่ยวงานประเพณีสงกรานต์ ที่เชียงแสน เชียงของ ตามด้วยกลางปีถึงปลายปีนี้ได้รับเกียรติจัด Art Finale 2023 “เชียงใหม่” จะมี Chaingmai Blooming Festival 2023 ตลอดกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมนี้ “แม่ฮ่องสอน” เมษายนจัดเทศกาล “ปอยส่างลอง” พร้อมกับสงกรานต์ชาติพันธุ์
และ “อุตรดิตถ์” ประยุกต์ขายเที่ยวเทศกาลดอกทุเรียนบาน ชมงานศิลป์ ซึ่งสามารถดอกนำมาเป็นเมนูอาหารคาวและขนม ส่วน “แม่สอด” ก็มีเที่ยวบินในประเทศบินจำนวนมากอย่างไทยแอร์เอเชีย กับนกแอร์กำลังจะบินเช่นกัน รวมทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงามแถบอุ้มผาง ผนวกกับ ททท.ตาก จับมือกับผู้ประกอบการร้านอาหารทำโปรโมชั่นอาหารค่อนข้างแรงโดนใจนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มเป้าหมาย
นางสาวภัทรอนงค์กล่าวว่า ปี 2566 ภาคเหนือยังคงเป็นแม่เหล็กตลาดต่างประเทศกลุ่มหลัก “นักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน” เดินทางเข้ามาไทย 2 ช่องทางหลัก คือ ช่องทางที่ 1 “การเดินทางทางอากาศกับสายการบินผ่านเข้ามาทางสนามบินนานาชาติเชียงใหม่” ตอนนี้ ททท.เตรียมประกาศให้ “เชียงใหม่” เป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยวจีนในภาคเหนือ เพื่อกระจายท่องเที่ยวไปตามจังหวัดใกล้เคียง โดยภาพรวมขณะนี้มีเที่ยวบินต่างประเทศมาไทยทั้งหมดสัปดาห์ละกว่า 80,000 ที่นั่ง เป็นเที่ยวบินจากจีนกว่า 20,000 ที่นั่ง มาภาคเหนือกับเชียงใหม่มีส่วนแบ่งตลาดจีนมากเป็นอันดับต้น ๆ
โดยมี “สายการบินจีน” ทยอยเปิดเส้นทางจากเมืองต่าง ๆ บินตรงจำนวนมากเริ่มจาก เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ มีทั้ง จุนเหยาแอร์ไลน์ส ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส และจากจีนแผ่นดินใหญ่อีก 4 สายการบิน ได้แก่ สปริงแอร์ 3 วัน/สัปดาห์ เสฉวนแอร์ไลน์ส บิน เฉินตู-เชียงใหม่ เส้นทาง ปักกิ่ง-เชียงใหม่ ก็มี ไชน่าแอร์ไลน์ส เริ่มบินแล้วตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป และยังมีอีกหลายภูมิภาคจากจีน
ช่องทางที่ 2 “ทางบกนักท่องเที่ยวจีนการขับรถผ่านแดน” เข้ามาทางด่านต่าง ๆ ขนาดกลุ่มละ 5-6 คัน/กรุ๊ป ซึ่งจะขยายขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขับขึ้นไปถึงแม่ฮ่องสอน

ตอนนี้ ททท.จะวางตำแหน่งภาคเหนือเป็นพื้นที่รองรับ “นักท่องเที่ยวจีน” แล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อม “ผู้ประกอบการหรือ Supply Site” ในเชียงใหม่ เชียงราย รณรงค์ให้ใช้คู่มือปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีน Do and Don’t พร้อมกับ“นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว” ให้สอดคล้องกับนักท่องเที่ยวจีนเทรนด์ใหม่หลังสถานการณ์โควิด-19
ขณะนี้โรงแรมขนาดใหญ่ลงทุนเปิดใหม่เรียบร้อยแล้ว อินเตอร์ติเนนตัล หรืออรินตา แล้ว ททท.ยังได้หารือกับทางไทยแอร์เอเชียร่วมมือกันโปรโมทแคมเปญต่าง ๆ เพื่อทำให้ภาคเหนือเป็นพื้นที่อันดับต้น ๆ ที่กระจายนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินสร้างเศรษฐกิจคึกคักให้ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen