- ททท.ดึงรัฐเอกชนลุยกิจกรรม Make the Difference in Tourism Product Design โชว์ความสำเร็จ 4โปรเจกต์
- เร่งยกระดับสินค้าบริการท่องเที่ยวพรีเมี่ยมผนึกตำรวจท่องเที่ยวโหมมาตรการเที่ยวปลอดภัย
- ปลื้มโครงการ“เจ้าบ้านที่ดี-HappyModel-AmazingHealth-ท่องเที่ยวมูลค่าสูงกระแสตอบรับพุ่ง
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจรองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เปิดกิจกรรม Make the Difference in Tourism Product Design โดยมีผู้ประกอบการชั้นนำเข้าร่วมกว่า 50 ราย ร่วมกันต่อยอดและผลักดันโครงการยกระดับมูลค่าสินค้าและสร้างระบบนิเวศใหม่ทางการท่องเที่ยวให้พร้อมรองรับตลาดศักยภาพสูง โดยมุ่งปรับทักษะ(Upskill &Reskill) เพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการช่วยกันพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการพรีเมี่ยมตอบโจทย์ความยั่งยืน
ททท. จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเมื่อ 4 กันยายน 2566 ที่โรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ โดยใช้รูปแบบไฮบริดผสมผสานทั้งออนไซต์และออนไลน์ผ่าน Facebook Live และ Facebook Page : Tourism Product อัปเดตข้อมูลสินค้าการท่องเที่ยว นำเสนอถึงผลการดำเนินงานช่วงปีที่ผ่านมาหลังจากได้สร้างสรรค์ส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ พร้อมกับระดมความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายใต้หัวข้อ Tourism Product Design
รวมทั้งได้เชิญกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวบรรยายถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ด้านการพัฒนาและสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพได้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายการตลาด ร่วมกันสร้างความมั่นใจนำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปสู่มาตรฐานความยั่งยืนต่อไป
ช่วงที่ผ่านมา ททท.ทำโครงการต่าง ๆ ต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ โดยได้ทดลองขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ แล้วมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีมาตลอดไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ ได้แก่
โครงการที่ 1 เจ้าบ้านที่ดี New Chapter Phase II มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 1,307 ราย สร้างการรับรู้ได้มากถึง 35 ล้านคน/ครั้ง
โครงการที่ 2 สร้างกระแสการเดินทางและส่งเสริมการเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีภายใต้แนวคิด Happy Model มียอดการรับรู้รวมทั้งสิ้น 129 ล้านคน/ครั้ง สามารถสร้างอัตราเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ถึง 20 ล้านบาท
โครงการที่ 3 Amazing Thailand Health and Wellness New Chapters New Experience ภายในระยะเวลา 2 เดือน มียอดขายแพ็กเกจในแคมเปญกว่า 5,656 การจอง (booking) เกิดการเดินทางสู่พื้นที่ 7,215 คน และสร้างรายได้สูงถึง 68 ล้านบาท
โครงการที่ 4 สร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวมูลค่าสูง (Luxperience) ที่ได้คัดสรรและนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวเชิงมูลค่ากว่า 62 รายการ เส้นทางตัวอย่าง 5 เส้นทาง ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับที่มีคุณค่าและความหมาย (Meaningful Travel) ซึ่งมีสินค้าที่สามารถรองรับตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายสำคัญในปี 2567 ได้ถึง 29 รายการ
พลตำรวจตรีอภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยเป็นปัจจัยชี้วัดคุณภาพการท่องเที่ยวไทย ทางหน่วยงานได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการดูแลความปลอดภัยและเสริมสร้างความมั่นใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยว จึงร่วมกับ ททท. เฝ้าระวังและดูแลเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความสะดวกและเรียบร้อย ด้วยวิธีจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงตรวจตราพื้นที่ พร้อมกับนำเครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับทุกฝ่าย ควบคู่กับสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ทำให้นักท่องไทยและต่างชาติเห็นภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวในระยะยาว
ขณะที่กิจกรรม “Make the Difference in Tourism Product Design” ของ ททท.มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชั้นนำของไทยเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างคับคั่งครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ เช่น 1.บันยันทรี เวญ่า ภูเก็ต 2.รายาวดี กระบี่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก 3.มิสกวัน 4.คามาลายา เกาะสมุย 5.สยามเวลเนส กรุ๊ป 6.เจ้าพระยาทัวร์ริสท์ โบ๊ท 7.ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ 8.ชีจรรย์ กอล์ฟ รีสอร์ท 9.เอเชี่ยน โอเอซิส 10.เดอะ เปียโน เขาใหญ่
กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานได้สะท้อนมุมมองในฐานะผู้ให้บริการและสัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมและยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ขานรับนโยบายรัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นการเดินทางทั้งตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ สอดคล้องกับแผนการตลาด ททท. ปี 2567 ได้ตั้งเป้าหมายจะทำรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศสูงสุด 3 ล้านล้านบาท ร่วมกับทุกฝ่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยก้าวสู่ความยั่งยืน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
