ททท.ปลุกเที่ยวทั่วไทย“The LINK Local to Global”

  • ททท.เปิดมิติใหม่เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง Happy Link Thailand’s Dream Destinations 
  • บูมThe LINK Local to Global กิจกรรมจับคู่เที่ยวไทยข้าม 5 ภูมิภาค 15 พื้นที่ 30 เส้นทาง
  • ไฮไลต์ 4 ภาค 4 เส้นทางเชียงใหม่เพชรบุรี  แพร่ประจวบคีรีขันธ์จันทบุรีอุบลราชธานีและนครพนมนครศรีธรรมราช

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า  ททท.พร้อมนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง Happy Link : Thailand’s Dream Destinations เพิ่มประสบการณ์ความสุขภายใต้ โครงการ The LINK Local to Global” วางกลยุทธ์ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศออกเดินทางข้ามภูมิภาค เน้นสร้างภาพลักษณ์เพิ่มจุดขายแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการมุมมองใหม่ ทำให้เกิดการเพิ่มครอบคลุมทั้ง 3 ส่วน ทั้งการเพิ่มรายได้ เพิ่มความถี่ในการเดินทาง เพิ่มอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR-Occupacy Rate) แล้วการกระจายเม็ดเงินเข้าถึงชุมชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึงในแต่ละภาคตลอดโครงการ

ททท.ได้นำเสนอการท่องเที่ยวในโครงการ The Link Local to Global ครอบคลุมทั้ง 5 ภูมิภาค รวม 15 พื้นที่เชื่อมโยง 30 เส้นทาง ผลักดันให้เกิดรายได้สู่เศรษฐกิจ สังคม และชุมชน ตลอดจนห่วงโซ่อุปทานในแต่ละเส้นทาง ขับเคลื่อนเป็น 1 ในหมุดหมายใหม่สร้างคุณค่าและประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวให้คนไทยและต่างชาติ นำสู่เป้าหมายอนาคตที่จะก้าวขึ้นเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลกต่อไป

ททท.ได้ทำโครงการ The LINK Local to Global ครั้งนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ เอกชน เจ้าของพื้นที่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จับมือกันออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวพื้นที่เชื่อมโยง ปลุกกระแสนักท่องเที่ยวเดินทางกระจายตัวข้ามภาคต่าง ๆ ของไทย ควบคู่กับการยกระดับภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพด้วยการคัดสรรสินค้าและบริการท่องเที่ยวในมุมใหม่ที่ได้พัฒนาและยกระดับทำร่วมกัน

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ตลอดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในโครงการนี้ ได้นำเรื่องราว วิถีชีวิต วัฒนธรรม เชื่อมโยงพื้นที่ในมิติต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับ การคมนาคม สังคม ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตและชุมชน พัฒนาตลาดควบคู่กับการสร้างผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ให้เกิดความเข้มแข็ง แล้วยังสามารถกระแสการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ตลอดทั้งปี โดยมีตัวอย่างการจับคู่ของ ททท. 4 ภูมิภาค 8 จังหวัด ดังนี้

ททท.ภูมิภาคภาคเหนือจับคู่กับภาคกลางนำเสนอ  2 เส้นทางเชื่อมโยงได้แก่

เส้นทางที่ 1  : จังหวัดแพร่กับประจวบคีรีขันธ์ นำเสนอเรื่องราวแฟชั่นงานผ้า Craft & Kram ผ้าหม้อห้อม ซึ่งเป็นสินค้า GI ของจังหวัด เชื่อมโยงกับ “ผ้าพิมพ์ลายพื้นเมืองโขมพัสตร์” ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

เส้นทางที่ 2 : เชียงใหม่กับเพชรบุรี ผ่านการเชื่อมโยงเรื่องราวเส้นทางท่องเที่ยว  The Royal Route “เที่ยวพริบพรีภิรมย์” ชิมขนม ชมวัง ฟังเสียงคลื่น กับ กิจกรรมล่องเรือชมแม่น้ำปิง “ภิรมย์นาวา”พร้อมจิบชายามบ่ายหรือ  afternoon tea 

ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกจับคู่กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 เส้นทางเชื่อมโยงได้แก่

เส้นทางที่ 1 : จันทบุรีกับอุบลราชธานี ผ่านการเชื่อมโยงเรื่องราวเส้นทางอาหาร เมนูสมุนไพรประจําถิ่น ที่มีชื่อเสียงประจําจังหวัดจันทบุรี เช่น การนำกระวานมาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร รวมถึงเชื่อมโยงเข้ากับอาหารถิ่นอุบลราชธานีที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ จากมิชลินไกด์ ปี 2566 สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี

ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือจับคู่กับภาคใต้ 1 เส้นทางเชื่อมโยงได้แก่

เส้นทางที่   : นครพนมกับนครศรีธรรมราช ผ่านการเชื่อมโยงด้วยความศรัทธา ความเชื่อ แสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมงานประเพณีบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช นครพนม กับงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุยามค่ำคืน นครศรีธรรมราช ซึ่งทั้งสองเป็นงานประเพณีที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมากทุกปี

ขณะเดียวกัน ททท.ได้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเส้นทางท่องเที่ยว 15 พื้นที่เชื่อมโยง รวมทั้งหมด 30 เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าไปชมและเลือกเดินทางได้จากเว็บไซต์ www.tourismthailand.org  

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen