

- ททท.ปลุกเที่ยวภาคเหนือหน้าหนาวปั๊มรายได้ยอดพักปลายปี’65 พุ่ง 55%
- โหมขาย 3 โปรดักซ์ “เที่ยวทะเลหมอก-ดอกไม้เมืองหนาว-ลอยกระทง”
- เร่งขับเคลื่อน 4 เมนูประสบการณ์ 4F และ 4 เพิ่ม เพิ่มรายได้/เพิ่มความถี่การเดินทาง/เพิ่มจำนวนครั้ง-คน/เพิ่มพื้นที่การท่องเที่ยวเมืองรอง
- ต่อยอดปีใหม่’66 บูมขาย “น่าน” โกยทัวร์สายมูคนปีกระต่ายไหว้พระธาตุแช่แห้งกระหึ่มล้านนา
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์ตลาดการท่องเที่ยวกระตุ้นรายได้ปลายปี 2565ต้อนรับฤดูท่องเที่ยวไฮซีซันภาคเหนือตลอดหน้าหนาว ซึ่งจะต้องแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้หันมาดึงคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น จะใช้สภาพอากาศเย็นกว่าทุกปีเป็นจุดขายด้วยสินค้าเด่น 3 หมวดหลัก
หมวดแรก “ขึ้นภูท่องเที่ยวทะเลหมอก” ตอนนี้มีไฮไลต์พื้นที่หลักอย่าง หยุนไหล จ.แม่ฮ่องสอน ภูชี้ดาว จ.เชียงรายบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย เรื่อยไปจนถึง ภูชี้เดือน ดอยเสมอดาว สะปัน บ่อเกลือ จ.น่าน แต่ละแห่งจะมีทะเลหมอกสวยงาม

หมวดที่ 2 “เที่ยวทุ่งดอกไม้หน้าหนาวเมืองเหนือ” โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงต่างประเทศ มาภาคเหนือก็จะได้ถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้สวย ๆ กำลังสวยงาม เช่น เชียงใหม่ หรือเขาค้อ จ.ตาก มีดอกสิลาเวีย มากาเร็ต เดซี่ จ.แม่ฮ่องสอนชมทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ ดอกนางพญาเสือโคร่ง และอีกหลายดอยภาคเหนือมีดอกไม้บานสะพรั่งยาวไปจนถึงปีใหม่จ.เชียงใหม่ จัดยิ่งใหญ่งานเทศกาลดอกไม้ดอยตุง
หมวดที่ 3 “เที่ยวงานเทศกาล” ไฮไลต์ต้องยกให้ “ลอยกระทง” ปีนี้หลายพื้นที่เตรียมกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ทั้ง งานเผาเทียนเล่นไฟ อุทยานประวัติศาสตร์ จ.สุโขทัย ลอยกระทงสายไหลประทีป จ.ตาก ล่องสะเปา จาวละกอน จ.ลำปางและยี่เป็ง จ.เชียงใหม่
ททท.ภูมิภาคภาคเหนือเร่งปลุกกระแสการเดินทางปลายปี 2565 ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมทำให้มีอัตราเข้าพักสร้างรายได้เฉลี่ย OR :Occopacy Rate 55 % เป็นไปตามเป้ารวมทั้งประเทศตลอดปีนี้ ขณะนี้สถานการณ์ “รายได้ท่องเที่ยวภาคเหนือ” ขณะนี้ 14 จังหวัดสามารถทำได้แล้ว 47 % ช่วง 3 เดือนนี้ ตุลาคม-ธันวาคม 2565 เมื่อเร่งขายกิจกรรมต้อนรับเที่ยวหน้าหนาว ชมทุ่งดอกไม้ เทศกาลลอยกระทง เคาน์ดาวน์ ก็น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับภาพรวมของทั้งประเทศคือ 54-55 %

อีกทั้งภาคเหนือได้เดินหน้าขายสินค้าท่องเที่ยวพลัง Soft Power 4 F ได้แก่ F1 -Fashion/แฟชั่น ผ้าพื้นเมือง สินค้าศิลปะหัตถกรรม การทำกิจกรรมในชุมชนภาคเหนือ เพิ่มรายได้สู่ท้องถิ่น เช่น เรียนรู้วิถีไร่ชา การเด็ดยอดชา ชงชา
F2 -Food/อาหาร ทำต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีนี้จะมีเทศกาลเคาน์ดาวน์ ส่งท้ายปี พร้อมกับเปิดศักราชต้อนรับปีใหม่ คนส่วนใหญ่รู้จักอาหารพื้นเมืองปกติทั่วไป แต่ปี 2566 จะเพิ่มจุดขาย “อาหารเหนือตอนล่าง” หลายจังหวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำหลายสายรวบรวมเมนูอาหารถิ่น และปลาชนิดต่าง ๆ มานำเสนอนักท่องเที่ยว
F3 -Festival/เที่ยวเทศกาล จะบูมขายเส้นทางขับรถท่องเที่ยว ชมดอกไม้ ชมหมอก ส่วนลอยกระทง ปลายปีนี้ ลอยกระทงเผาเทียน อุทประวัติศาสตร์ จ.สุโขทัย 29 ตุลาคม – 8 พฤศจิกายน นี้ “ยี่เป็ง” จ.เชียงใหม่ 7-9 พฤศจิกายน นี้ลอยกระทงสาย จ.ตาก จัด 7-9 พฤศจิกายน “แขวนโคมแสนดวง” จ.ลำพูน เชิญชวนนักท่องเที่ยวไปร่วมทำโคมไฟโบราณกับชาวบ้านเพื่อนำมาใช้ในเทศกาลลอยกระทง สำหรับจังหวัดอื่น ในภาคเหนือก็จัดด้วยเช่นกัน เช่นแม่ฮ่องสอน แพร่
F4-Film สถานที่สวย ๆ ถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร ในหลายจังหวัดมีศักยภาพสูงที่พร้อมยกระดับจุดขายดังกล่าว

นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่า เชิญชวนเที่ยวเทศกาล “เคาน์ดาวน์” ภาคเหนือ ไฮไลต์ที่ จังหวัดน่าน เนื่องจากปี 2566 ตรงกับปีเถาะหรือปีกระจาย จะมีพระธาตุ “แช่แห้ง” อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะโดยมีสัญลักษณ์รูปกระต่าย เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายมูสามารถตื่นเช้าปีใหม่ไปทำบุญ ตักบาตร และกิจกรรมทางศาสนาตอนนี้ ททท.กำลังหารือกับทางจังหวัดน่าน ถึงการเปิดให้ทำกิจกรรมอย่างเหมาะสมในช่วงเทศกาลดังกล่าว
โดยได้เร่งปูพรมรุกอัดฉีดการขายเที่ยวภาคเหนือด้วยธีม “เสน่ห์วันวาน เมืองเหนือ” นำซอฟท์ เพาเวอร์ เป็นพลังสร้างรายได้กระตุ้น 4 เพิ่ม ได้แก่ 1.เพิ่มรายได้ 2.เพิ่มความถี่การเดินทาง 3.เพิ่มจำนวนครั้ง-คน 4.เพิ่มพื้นที่กระจายการท่องเที่ยวสู่จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ขับเคลื่อนการสร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าภาคเหนือด้วย 4 เมนูประสบการณ์หลักประกอบด้วย
เมนูแรก North Exclusive เน้นกระตุ้นค่าใช้จ่าย นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวงานศิลปะหัตถกรรม เลือกที่พักระดับบนหากพักแคมป์ก็จะขายสไตล์ Glamping หรือร้านอาหารที่มีกิมมิกเฉพาะตัวอย่างโดดเด่น ร้านกาแฟชิค ๆ ทำกิจกรรมโดยจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เงินเพิ่มมากขึ้น ด้วยแจกสิทธิพิเศษ

เมนูที่ 2 North Experience เน้นให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้สินค้าแล้วได้รับประสบการณ์พิเศษดี ๆ ประทับใจกลับไปด้วย เพื่อให้กลับมาเที่ยวซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง บางพื้นที่อาจจะเด่นเรื่องความคลาสสิก ไลฟ์สไตล์ ต่างกันไป เมื่อเข้าไปถึงแหล่งท่องเที่ยวแล้วจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับคนในชุมชน เช่น ปักผ้ากับชาวเขา หรือเทรนดี้ก็อาจจะลองทำกาแฟและอื่น ๆ
เมนูที่ 3 วิถีชีวิต นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ตัวอย่าง การทำเมนูปลาแรดแม่น้ำสะแกกรัง สะท้อนถึงความเป็นอยู่ซึ่งเป็นปลาว่ายทวนน้ำ เนื้อนุ่มแน่น รสชาติอร่อย สอดแทรกถึงเรื่องราวอาหารมีความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่มายาวนาน
เมนูที่ 4 Road Trip ขับรถท่องเที่ยวเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มเซกเมนท์ ปัจจุบันนิยมขับรถท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คนในภาคเหนือเที่ยวภาคเหนือ หรือคนภาคอื่น ๆ ขับรถเที่ยวภาคเหนือ
นางสาวภัทรอนงค์ย้ำว่าภาคเหนือเร่งเสนอการขาย “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ขณะนี้กำลังพิจารณาคัดเลือกกิจกรรม สร้างกิมมิก ให้ท่องเที่ยวได้สนุกทุกวัน เช่น “เที่ยวพาสาน” แลนด์มาร์ค ปากน้ำโพจ.นครสวรรค์ ชี้เป้าให้นักท่องเที่ยวมาแล้วได้เห็นน้ำขึ้นสูงสุด หรือ “เที่ยวดอย อ่างเก็บน้ำสันกำแพง” ช่วงตรงกับวันที่จะมีฝนดาวตก ทำให้เกิดการกระจายตัวนักท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะเชียงใหม่ปัจจุบันยังกระจุกอยู่ในตัวเมืองหรือพื้นที่ใกล้เคียง ต่อไปสามารถขึ้นดอยไปเที่ยวได้ถึงอำเภออมก๋อยอยู่บนยอดสูง

ททท.จึงขอเชิญชวนคนไทยมารับลมหนาวในภาคเหนือ ออกไปชาร์ตแบตเตอรี่ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย รับประทานอาหารอร่อย ๆ แล้วถ่ายรูปกลับมาไว้ในความทรงจำ
“การท่องเที่ยวเมืองไทย” สามารถช่วยเศรษฐกิจชาติเติบโต เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้จีดีพีประเทศขยายตัวมาตลอด ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดทำให้จีดีพีลดลง ไทยเที่ยวไทยจะเป็นพลังช่วยทุกภาคส่วนครบวงจร ทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยว คนในชุมชนท้องถิ่น กลับมาคึกคักมีรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตยกระดับไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen