

ททท.ภาคใต้ 14 จังหวัด ลุยโมเดล “ท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ” ชูต้นแบบ เกาะตะรุเตา จ.สตูล ต้นแบบทัวร์อย่างรับผิดชอบยั่งยืน
- นำนักท่องเที่ยวทั่วไทยร่วมแคมเปญ “Pirate of The South @ Satun” ดำน้ำเก็บขยะ ทำ BCG
- ผลิตตัวอย่าง 2 โปรแกรม ลดพลังงานคืนพระจันทร์เดือนมืด “Dark Sky Party” และตื่นมาวิ่งล่าแสงเช้า “Wake Up Run”
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้อำนวยการ ททท.และพันธมิตรเปิดงานโครงการ “Low Carbon Destination in The South” เร่งส่งเสริมเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STGs (Sustainable Tourism Goals) นำร่องทำแคมเปญ “Pirate of The South @ Satun” ที่เกาะตะรุเตา อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ด้วยการนำทัพนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ออกเดินทางในฐานะเป็นนักล่าแห่งท้องทะเลอันดามัน ที่บริเวณเกาะตะรุเตา (อุทยานแห่งชาติตะรุเตา) ซึ่งอดีตคุกกลางทะเลและชุมทางโจรสลัด จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบแบบคาร์บอนต่ำพร้อมนำชมความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์หมู่เกาะต่าง ๆ ในสตูล สร้างสนุกสนานกับกิจกรรมแนวคิดใหม่ Low Carbon เพื่อนำไปขยายผลผลิตแพกเกจทำตลาดการขายท่องเที่ยว ส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายและคุณค่าต้อนรบฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2566 เป็นต้นไป
นายสมชาย กล่าวว่า ททท. มุ่งส่งเสริมทางด้านการตลาดและการท่องเที่ยวครอบคลุมทุกมิติ จึงเร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานอย่างมีคุณภาพ เน้นการสร้างสมดุลระหว่างทรัพยากรทางการท่องเที่ยวและความต้องการทางการตลาดให้เกิดความยั่งยืนตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติตามนโยบาย BCG :Bio-Circular-Green เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ททท.จึงได้จัดโครงการ “Low Carbon Destination in The South” ร่วมกับจังหวัดสตูล อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย(TEATA) ตัวแทนผู้ประกอบการ (DMC :Destination Management Company)ในจังหวัดสตูล นำร่องจัดกิจกรรมขึ้นในพื้นที่เกาะตะรุเตา (อุทยานแห่งชาติตะรุเตา) และบริเวณเกาะใกล้เคียง จังหวัดสตูล

ตั้งเป้าหมายส่งเสริมการตลาดในภูมิภาคภาคใต้ เร่งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่จังหวัดสตูล ซึ่งจะเป็นต้นแบบนำไปสู่การยกระดับโมเดล “พัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคใต้” ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) เต็มรูปแบบในปัจจุบันและอนาคต
โดยเฉพาะการจัดทำโมเดล “การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ” (Low Carbon Tourism) ด้วยวิธีบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรผลักดันและส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นให้มีศักยภาพพร้อมขาย ตลอดจนสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ในการอนุรักษ์ไปพร้อมกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถและมาตรฐานด้านการจัดการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชุมชนท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
นายสมชาย กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนไป จึงส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก เริ่มหันมาตระหนักรวมทั้งให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อง การมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต ชุมชน ศิลปวัฒนธรรม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สร้างรูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ททท.จึงจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ พร้อมสอดแทรกกิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ ด้วยคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์ “Pirate of The South @ Satun” เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวนำร่อง จำนวน 3 วัน 2 คืน

ททท.ได้นำนักท่องเที่ยวจากเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ เอกชนทั้งในและนอกพื้นที่ สื่อมวลชน นักท่องเที่ยวทั่วไปที่สนใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ รวม 80 คน ร่วมเดินทางมาทดสอบโปรแกรมท่องเที่ยวสัมผัสความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแห่งทะเลใต้ จังหวัดสตูล ซึ่งตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทยด้านฝั่งอันดามัน เช่น เกาะตะรุเตา เกาะไข่ เกาะเหล็ก เกาะหินงาม เกาะหินซ้อนเกาะราวี อ่าวแม่หม้าย เกาะอาดัง จุดดำน้ำร่องน้ำจาบัง เกาะหลีเป๊ะ และอีกหลายแห่งด้วยกัน
ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรม “Pirate of The South @ Satun” ได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์บนเกาะตะรุเตา เที่ยวเพื่อสังคมสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวเกาะอูรักลาโว้ยอย่างใกล้ชิด พร้อมกับชมภาพ Street Art บนเที่ยวถนนคนเดิน ชมพระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซ็ทบนเกาะหลีเป๊ะ สนุกสนานไปกับการทำเวิร์คชอปรักษ์โลก ที่ได้ออกแบบให้เป็นหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำของ ททท.
โดยเฉพาะการพานักท่องเที่ยวร่วมเป็นนักล่าแห่งท้องทะเลใต้ทำกิจกรรมเก็บขยะบนเกาะ มุ่งสร้างความสะอาดและเพิ่มความสวยงามแก่ชายหาดและท้องทะเล แล้วยังช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีให้ทุกคนร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีไฮไลต์ลดพลังงานในคืนพระจันทร์เดือนมืด “Dark Sky Party” กับกิจกรรมตื่นมาวิ่งล่าแสงเช้า “Wake Up Run” กับชุดนอนแสนรัก สัมผัสบรรยากาศริมหาดรับแสงแรกวันใหม่บนเกาะหลีเป๊ะด้วยกัน
ปิดท้าย ททท. ได้ทำกิจกรรมซีเอสอาร์ส่งมอบตู้ล็อคเกอร์ให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาโดยให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบนเกาะแห่งนี้ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป ช่วยกันรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวพกสิ่งของสัมภาระเข้าเกาะน้อยชิ้นที่สุดตามแนวคิด“เที่ยวเกาะขอสองชิ้น – Two Please” จะช่วยลดการเกิดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ พร้อมกับแนะนำวิธีท่องเที่ยวเข้าอุทยานแห่งชาติจะต้องจองผ่าน App QueQ โดยจองล่วงหน้าก่อน 60 วัน เมื่อไปถึงแล้วแนะนำให้ออกแบบท่าและเทคนิคการถ่ายภาพโพสต์แต่ละแหล่งท่องเที่ยวร่วมกันเปิดจุดขายใหม่โดย ททท.มอบรางวัลการสะสมแต้มผ่านออนไลน์ด้วย

สำหรับ “เที่ยวใต้สายยั่งยืน STGs” (Sustainable Tourism Goals) รูปแบบท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ นำร่องในพื้นที่ด้วยธีมที่น่าสนใจ 14 จังหวัด มีดังนี้
1.สตูล : เกาะตะรุเตา “นักล่าขุมทรัพย์ Low Carbon” อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
2.กระบี่ : ทุ่งหยีเพ็ง ”กระบี่ Low Carbon” อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
3.ชุมพร : เกาะพิทักษ์ ”ภูมิปัญญาท้องถิ่น & วิถีชุมชน” อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
4.ระนอง : ม่วงกลวง”ล่องแพเปียก” อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
5. ภูเก็ต : บ้านบางโรง”เสน่ห์วิถี คน บางโรง” อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
6.พังงา : บ้านโคกไคร”สปาสามร้อน” อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา
7.ตรัง : บ้านน้ำราบ ”เขาจมป่า” อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
8.นราธิวาส : ภูเขาทอง”มหาวิทยาลัยเหมืองแร่” อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
9.ปัตตานี : สะพานไม้บานา”เที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ” อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

10.ยะลา : ฆูนุงซีลีปัต”ดูทะเลหมอกยามเช้า ชมทะเลดาวยามค่ำ” อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
11.พัทลุง : แรมซาพาราไดซ์”พื้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งแรกของประเทศไทย มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์” อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
12.นครศรีธรรมราช : พรหมโลก ”หลีกหนีวิถีความวุ่นวาย” อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
13.สงขลา : บ้านหัวเขา”ทะเลสาบสงขลา” อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
14.สุราษฎร์ธานี :บ้านน้ำราด “โอเอซิสกลางป่า” อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะสมุย-พะงัน-เต่า”แดนฝันหมู่เกาะทะเลใต้ ฝั่งอ่าวไทย” จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen