

- ททท. ตะวันออก เปิดแผนโกยไฮซีซันท่องเที่ยว ต.ค.-ธ.ค.65 จัดทัพขายธีม 4 สบ๊ายสบาย
- “เที่ยวทะเลสบายกาย-เที่ยวธรรมชาติสบายตา-เที่ยวศรัทธาสบายใจ-เที่ยวไปกินไปสบายพุง”
- เจาะคนไทยกระเป๋าหนัก 3 กลุ่ม “เจนวาย-ไฮเอนด์-พรีเมียมแฟมิลี่”
- รุกตลาดอินเตอร์ 5 ชาติมาแรง อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ สปป.ลาว กัมพูชา ธุรกิจตบเท้าเปิดโรงแรม ร้านอาหาร 70-80 %
- บูม 5 กิจกรรมทำเงิน 1.ชลบุรีพรีเมี่ยม 2.Special Weekdayระยอง 3.เที่ยวโลว์คาร์บอนตราด
- 4.ฟรีสไตล์สบายเดย์จันทบุรี ปี’66 ยกชั้นเป็น Gastronomy City 5.เที่ยวสบายสไตล์แอดเวนเจอร์ นครนายกปราจีนบุรี สระแก้ว”
นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เริ่มเดินหน้าแผนตลาดการท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2566 กำหนดทิศทางด้วยการสร้างกระแสจุดขาย “สบ๊าย สบาย ภาคตะวันออก” ในรูปแบบประสบการณ์ท่องเที่ยว Online Experience นำเสนอการท่องเที่ยวที่มีเรื่องเล่าเป็นสตอรี่เพื่อกระตุ้นและเพิ่มความถี่การเดินทางเข้าพื้นที่เป้าหมายมากยิ่งขึ้น พุ่งเป้าหมายเจาะตลาดซึ่งได้ทำวิจัยมาเรียบร้อยแล้วถึงอัตราการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเจนวาย กลุ่มไฮเอน และกลุ่มมิลเลนเนียลแฟมิลี่ หรือครอบครัวคนรุ่นใหม่ เตรียมสินค้านำเสนอขายในธีม “สบ๊าย สบาย ภาคตะวันออก” ด้วยเรื่องเล่าที่ดึงดูดนักเดินทาง4 สบาย ประกอบด้วย

สบายแรก -เที่ยวทะเลสบายกาย เป็นการเดินทางท่องเที่ยวเกาะกูด จังหวัดตราด เกาะล้าน พัทยา เกาะสีชัง ชลบุรีเกาะเสม็ด ระยอง ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวทะเลอ่าวไทยตะวันออกแตกต่างจากอันดามันภาคใต้
สบายที่ 2 -เที่ยวธรรมชาติ สบายตา เอาใจนักเดินทางสายเขียวหรือสายกรีนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวป่าเขาลำเนาไพร หรือสวนพฤกษศาสตร์ หรือศูนย์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือท่องเที่ยวผืนป่า นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว

สบายที่ 3 – เที่ยวศรัทธา สบายใจ เส้นทางท่องเที่ยวสายมูโดดเด่นไม่แพ้ภาคอีสาน ที่ได้รับความนิยมสูงได้แก่ ไหว้พระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา กับนครนายก ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์วัดหลวงพ่อโสธร ยังคงเป็นไฮไลต์สำคัญหลักในฉะเชิงเทราไหว้ท้าวเวสสุวรรณ และไหว้ช้างสามเศียร เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ
สบายที่ 4 เที่ยวไป กินไป สบายพุง ภาคตะวันออกมีความหลากหลายเรื่องกิน คือ อาหารทะเล กับผลไม้ ขณะนี้ได้ต่อยอดเมนูอาหารทะเลต่อยอดได้เป็นจำนวนมากหลากหลาย หรือด้านอื่น ๆ เช่น อาหารทำจากสมุนไพร อาหารเป็นยาอาหารเพื่อสุขภาพ ตอนนี้หลายจังหวัดทั้งที่ อภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี ได้ต่อยอดอาหารอีกหลายแขนงมากขึ้น

ผอ.ปิ่นนาถ กล่าวว่า แผนงานเริ่มต้นไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2566 ระหว่าง 1 ตุลาคม-ธันวาคม 2565 จะเน้นทำประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้สินค้าท่องเที่ยวปี 2566 ด้วยสตอรี่ทั้ง 4 สบายข้างต้น นำร่องโปรโมต 2 เรื่องหลัก ได้แก่อาหารหรือ Gastronomy กับท่องเที่ยวทะเล ต้อนรับฤดูท่องเที่ยวไฮซีซันปลายปีนี้ เพราะแหล่งท่องเที่ยวกำลังสวยบวกกับอาหารแต่ละชนิดมีรากเหง้าวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจอย่างมาก เช่น พืชตระกูลกระทั้งหลาย อย่างกระชายกระวาน และอื่น ๆ มาปรุงเป็นอาหาร “สำรับอาหารเป็นยา” ทาง ททท.จันทบุรี จะสร้างต้นแบบจุดขายเรื่องอาหารเป็นยาก่อนจังหวัดอื่น
จากนั้นปลายเดือนธันวาคม 2565 ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก แต่ละสำนักงานก็จะเริ่มจัด “กิจกรรม” ให้สอดคล้องกับ 3 ตลาดเป้าหมาย เจนสาย ไฮเอนด์ มิลเลนเนียล แฟมิลี่ เพื่อดึงดูดให้แต่ละกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวกระจายตามพื้นที่สอดคล้องกับพฤติกรรมความต้องการ ตัวอย่างโครงการท่องเที่ยวรับเทรนด์ขายภาคตะวันออก เช่น
โครงการที่ 1 “ชลบุรี พรีเมี่ยม” นำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวคุณภาพสูง ได้แก่ โรงแรมที่มี พูล วิลล่า ระดับ 5-6 ดาวกิจกรรมทางน้ำ เล่นเซิร์ฟบอร์ด เซิร์ฟสเก็ต และการล่องเรือยอร์ช
โครงการที่ 2 Weekday Special จังหวัดระยอง กระตุ้นการกลุ่มคอร์ปอเรต เดินทางวันธรรมดา เที่ยวยกก๊วน ชวนกันกิน ตีกอล์ฟ หรือ Coffee Hobbing
โครงการที่ 3 เที่ยวโลว์คาร์บอน เมืองตราด ครบทุกรสชาติ ที่เกาะกระดาด เกาะหมาก เกาะไข่ ตอนนี้เตรียมเปิดขาย100 เดียวเที่ยวชุมชน สามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
โครงการที่ 4 ฟรีสไตล์ สบายเดย์ สบายกาย สบายใจ สบายพุง ของ ททท.สำนักงานจันทบุรี เริ่มเพิ่มความหลากหลายทางการขาย วัฒนธรรมการกิน ปี 2566 จะผลักดันจันทบุรีเป็นเมืองแห่งอาหารหรือ Gastronomy City รวมทั้งเป็นเมืองศูนย์กลางการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

โครงการที่ 5 เที่ยวสบายสไตล์แอดเวนเจอร์ผจญภัยใน 3 จังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เน้นจุดเด่นทาง Eco Tourism ท่องเที่ยวแคมปิ้ง อาหาร และกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ สามารถพาครอบครัว เพื่อนฝูง คู่รัก ไปร่วมสนุกได้
ผอ.ปิ่นนาถ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก พร้อมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว โดยได้ประสานกับสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก ชุมชนแหล่งท่องเที่ยว ทำงานร่วมกับ ททท.อย่างใกล้ชิด โดยมี กลุ่มที่ 1 โรงแรมที่พักภาพรวมเปิดแล้ว 70-80 % บางแห่งใช้วิธีทยอยเปิดหากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่มีห้องพักจำนวนมากกลุ่มที่ 2 แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่หลัก พัทยา และจังหวัดชลบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติและแมนเมดมนุษย์สร้างขึ้น 50 แห่ง เปิดแล้ว 30 แห่ง เช่น ล่าสุด อาคาซ่า ทิฟฟานี่ สวนน้ำเริ่มทยอยเปิด ส่วนสวนนงนุชเปิดมาตลอดโชว์โลมา ริบลี่
รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดอื่นซึ่งเน้นธรรมชาติ เช่น สวนพฤกษศาสตร์ระยอง สวนอนุรักษ์บางปู เมืองโบราณสมุทรปราการ พระพิฆเนศ ช้างสามเศียร และการท่องเที่ยวเกาะในทะเลแถบ ตราด ระยอง จันทบุรี ได้รับการฟื้นฟูแต่ละแห่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้ในภาคตะวันออก “การท่องเที่ยววันธรรมดา” กระเตื้องขึ้นชัดเจน ส่วน การท่องเที่ยววันหยุดเต็มเกือบทุกสัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย นิยมขับรถส่วนตัวเข้ามาพักผ่อน มาเป็นครอบครัว พ่อแม่ ลูก ๆ ปู่ย่าตายาย ขณะที่ “ตลาดต่างประเทศ” จากสถิติพบว่ามีเพิ่มขึ้น ในพัทยา หลัก ๆ เป็นตลาดระยะใกล้ (shorthaul) อันดับ 1 อินเดีย มีทั้งเดินทางท่องเที่ยวโดยลำพัง F.I.T.และกลุ่มอินเซนทีฟ มาจัดประชุม สัมมนา ส่งผลทำให้โรงแรมขนาดใหญ่รับจองห้องพักตลาดอินเดียถี่มากขึ้น อันดับ 2 เวียดนาม ตามด้วย สิงคโปร์ สปป.ลาว กัมพูชา ส่วนตลาดทวีปไกล (longhaul) จากอเมริกา ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น กำลังรอสัญญาณต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน

สำหรับ “ตลาดคนไทย” ยังคงได้รับความนิยมไฮซีซันปลายปีนี้ เพราะทะเลอ่าวไทยกับอาหารอร่อย ราคาเข้าถึงได้ง่าย
ผอ.ปิ่นนาถ กล่าวถึงการเปิดเส้นทางแนะนำ 1.การท่องเที่ยว Eco BCGเช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปูมีเรื่องราวน่าสนใจให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคืนธรรมชาติสู่บางปู 2.การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ มีเส้นทาง RT :Responsible Tourism ปลูกต้นลำพูคืนระบบให้ป่า หรือ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง เป็นแหล่งชุ่มน้ำขนาดกลางแซมซ่าไซซ์ในพื้นที่กว่า 3,800 ไร่ จะมีเรื่องการชมพันธุ์ไม้หาดูยาก ได้อนุรักษ์ไว้กว่า 400 ชนิด รวมทั้งมีกิจกรรมล่องเรือชมแพหญ้าหนังหมา ทุ่งดอกบัวระยะทางยาวมาก ชมป่าเสม็ดพันปี จะมีต้นเสม็ดอายุเก่าแก่เป็นดงสวยงามมาก แล้วยังมี เกาะหมากเกาะกระดาด เกาะขายหัวเราะ เน้นการท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน
สำหรับการท่องเที่ยวภาคตะวันออก คนไทยสามารถมาได้ทุกพื้นที่ปลายปีนี้ ซึ่งมีทั้งเส้นทางอาหาร Gastronomy เลือกรับประทานได้หลากหลายสไตล์ทั้ง อาหารถื่น สตรีทฟู้ด พร้อมอีเวนต์ท่องเที่ยวต่าง ๆ ปลายปีจะมีเทศกาลพลุนานาชาติพัทยา และกิจกรรมทางน้ำ เจ็ตสกี เซิร์ฟ วิ่งมาราธอน วิ่งเทรล เทศกาลอาหาร วิ่งเทรล เป็นการท่องเที่ยวเที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ใช้เวลาตัดสินใจภายใน 1-2 วัน ก็ออกเดินทางได้
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza ,www.facebook.com/penroongyaisamsaen