ททท.ชี้ทัวร์จีนเปลี่ยนครั้งใหญ่ 5 เรื่องปี 66 ดีกว่าปี 62

ททท.งัดทุกช่องทางปั๊มตลาดจีนเที่ยวไทย ตั้งเป้าปี’67 ทำให้ถึง 8.2 ล้านคน เพิ่มเกิน 100 % ผ่าโครงสร้าง “จีนยุคใหม่” เทียบพฤติกรรมนักเดินทางก่อน-หลังโควิดเปลี่ยน 5 เรื่องใหญ่ ปี’66 ลุยใช้ 2 กลยุทธ์ Quick Win-Quality ด้วยเครื่องมือหลัก 4 News

  • เปิดข้อมูลจุดเปลี่ยนตลาดจีนปี’66หลังโควิด F.I.T.พุ่ง 86% ใช้เงินในไทยเพิ่ม 2 เท่า
  • ปี’62 ก่อนโควิดนักท่องเที่ยว G.I.T.สูง 39 % ใช้จ่ายเฉลี่ย 10,000 บาท/คน/ทริป
  • ททท. ตั้งเป้าช่วยธุรกิจเต็มที่ปี’67 ตั้งเป้าดึงจีนเที่ยวไทย 8.2 ล้านคน เพิ่มเกิน 100%

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ตั้งเป้าหมายปี 2567 จะนำเข้านักท่องเที่ยวจีนมาให้ได้มากที่สุด 8.2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2566 เกินกว่า 100 % รวมทั้งล่าสุดปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ได้จัดทำข้อมูลวิเคราะห์นักท่องเที่ยวตลาดจีนเปรียบเทียบระหว่างปัจจุบันปี 2566 เมื่อสถานการณ์หลังโควิดฟื้นตัวทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเดินทางของทั่วโลก กับปี 2562 ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยได้ฉายภาพให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นข้อมูลจริงหันมาทำความเข้าใจให้ตรงกันถึง “โครงสร้างตลาดและการใช้จ่ายเงิน” ตามพฤติกรรมใหม่ของจีนเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยขณะนี้มีปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงชัดเจน 5 เรื่อง

ททท.กำลังเร่งทำตลาดเชิงรุกกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนมาตั้งแต่ไตรมาส 2-ไตรมาส 1 ปี 2566 ด้วย 2 กลยุทธ์คือ กลยุทธ์แรก Quick Win ฟื้นคืนตลาดกลุ่มกระแสหลัก เร่งปลุกกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวซ้ำ(re visit) กับขยายฐานกลุ่มเดินทางใหม่ครั้งแรก (first visit) ควบคู่กับส่งเสริมการท่องเที่ยวนอกฤดูเดินทาง(low season) กลยุทธ์สอง Quality เพิ่มจำนวนพร้อมกับกระตุ้นการใช้จ่ายเงินรุกเจาะกลุ่มกำลังซื้อที่สนใจท่องเที่ยวกิจกรรมพิเศษ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จัดแต่งงานและฮันนีมูน การท่องเที่ยวหรูหรา การท่องเที่ยวเชิงกีฬาและการท่องเที่ยววัฒนธรรมย่อยหรือ sub-culture

ขับเคลื่อนผ่านการทำอย่างเป็น 4 Newห ประกอบด้วย 1.New Segment เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนรายเซกเมนท์2.New Area ขยายการตลาดเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ มากขึ้น 3.New Alliance (Airline) หาพันธมิตรใหม่ทางการบินเปิดจุดบินเพิ่มจากจีนมาไทยให้ได้มากที่สุด 4.New Mode เพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จะกระตุ้นตลาดเป้าหมายได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ

สำหรับโครงสร้างทางการตลาดของนักท่องเที่ยวจีน ททท.พบการเปลี่ยนแปลงต่างจากเดิมชัดเจน 5 เรื่อง ตามรายละเอียดดังนี้

ปี 2566 ชาวจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศ 40.3 ล้านคน โดยเลือกมาท่องเที่ยวไทย มีรายละเอียด 5 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 มาเที่ยวเมืองไทยอันดับ 1 ระหว่าง 1 ม.ค.-26 พ.ย.2566 รวมทั้งสิ้น 3,046,893 ล้านคน ตั้งเป้าหมายไว้ 4.2 ล้านคน เรื่องที่ 2 มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเข้าเมืองไทย 4.49 ล้านที่นั่ง เรื่องที่ 3 มีวันท่องเที่ยวในเมืองไทยพักเฉลี่ย 7.9 วัน/คน/ทริป เรื่องที่ 4 ใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองไทยเฉลี่ย 20,000 บาท/คน/ทริป (ไม่รวมค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินกับค่าที่พัก) ปัจจุบันใช้จ่ายเฉลี่ย 10,000 บาท/วัน เรื่องที่ 5 นักท่องเที่ยวเป็นผู้เดินทางอิสระด้วยตนเองโดยลำพังแบบเดี่ยว ๆ (F.I.T.) สูงถึง 86 % เดินทางเป็นหมู่คณะจำนวนคนครั้งละมาก ๆ /กรุ๊ปทัวร์ (G.I.T. ) ประมาณ 14%

ปี 2562 ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศตลอดทั้งปีสูงถึง 155 ล้านคน โดยเลือกมาท่องเที่ยวเมืองไทยด้วยรายละเอียด 5 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 มาเที่ยวเมืองไทย อันดับ 1 จำนวนรวมทั้งสิ้น 11,138,658 ล้านคน เรื่องที่ 2 มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเข้าเมืองไทย 13 ล้านที่นั่ง เรื่องที่ 3 มีวันท่องเที่ยวในเมืองไทยพักเฉลี่ย 7.5 วัน/คน/ทริป เรื่องที่ 4 ใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองไทยเฉลี่ย 11,000 บาท/คน/ทริป ใช้จ่ายเฉลี่ย 6,100 บาท/วัน เรื่องที่ 5 เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระด้วยตนเองโดยลำพังแบบเดี่ยว ๆ (F.I.T.) เพียง 61 % เดินทางเป็นหมู่คณะครั้งละจำนวนคนมากๆหรือกรุ๊ปทัวร์ (G.I.T.) ประมาณ 39%

ทั้งนี้ สถิตินักท่องเที่ยวจีนสะสมในไทยระหว่าง 1 มกราคม – 26 พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,046,893 ล้านคน ตามเป้าหมายปี 2566 ททท.พยายามเร่งเต็มที่จะทำให้ได้ 3.5 -4 ล้านคน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen