- ททท.ในประเทศโชว์อาวุธใหม่เที่ยวไทยปี’66 ดัน 3 กลยุทธ์ “ลิมิเต็ด เอ็ดดิชั่น-เมนูทัวร์เอ็กซ์พีเรียนซ์-ไทยแลนด์ซอฟท์ เพาเวอร์”
- ปลุกคนเฮเที่ยวตลอดปี 250 ล้านคน/ครั้ง ระดมปั้นสตรีทฟู้ดประกาศปี “Year of Thai Gastronomy” ทัวร์เส้นทางอาหารถิ่นทั่วไทย
- เร่งขยายฐานเป้าหมายตลาดใหม่ 5 เทรนด์ “YOLD/กึ่งเด็กกึ่งผู้ใหญ่-สปอร์ตเลิฟเวอร์-รักษ์โลกสุดหัวใจ/Sustainable-เอ็กซ์คลูซีฟออฟฟิศ/Workation-เศรษฐี+LGBTQ/Stylecation”
“นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.กล่าวว่า ปี 2566 จะบริหารความเสี่ยงที่ดีที่สุดด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวไทยให้ได้ 250 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 800,000 ล้านบาท (จากรายได้รวมทั้งหมด 2.38 ล้านล้านบาท) เริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ต้นปีด้วยโดยใช้ Re Build และ Re bound ทั้งการสร้างใหม่และเพิ่มโมเมนตั้มดึงตลาดกลับมาให้เร็วที่สุด โดยจะเดินหน้ากระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศภายใต้ความท้าทายของ ททท.ในประเทศ 5 ภูมิภาค ทั้งหมด 45 สำนักงาน ด้วยไฮไลต์พิชิตเป้าหมายทั้งรายได้และจำนวนคนท่องเที่ยวด้วย 3 กลยุทธ์
กลยุทธ์ที่ 1 ไทยเที่ยวไทย Limited Edition 2023 ต้อนรับปีท่องเที่ยวไทย- VISIT THAILAND YEAR 2023 ซึ่งจะเป็นปีที่ต้องช่วยกันร่วมต้อนรับร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดีกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยที่กระจายการเดินทางไปยังทั่วทุกภาคของประเทศ
กลยุทธ์ที่ 2 แปลงโฉมเมนูประสบการณ์จากโปรดักซ์แคตาล็อก : From Product Catalog to Experience Menu ฮึกเหิมให้บริการด้วย “หัวใจ-Heart Crafted” สร้างความต่างจากประเทศอื่น ๆ ด้วยการนำนักท่องเที่ยวสัมผัสของจริงซึ่งทำออกมาจากใจ
กลยุทธ์ที่ 3 Thailand Soft Power ดันจุดแข็งให้กลายเป็นจุดขาย เชื่อมไทยสู่ตลาดทั่วโลก โดยได้นำเสนอสินค้าไฮไลต์ 5F ประกอบด้วย
1.Food Flavor ประกาศทำโครงการ “Year of Thai Gastronomy” เปิดตลาดถนนคนเดินหรือWalking Street โดย ททท.กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะบูรณาการทำงานร่วมกันกับอีกหลายกระทรวง เช่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเต็มรูปแบบ
2.Fashion Fascinate เดินหน้าเปิดเส้นทางชุมชนทอผ้า -อะเมซิ่ง ไทยเท่ ใส่ผ้าไทย ไปเที่ยว
3.Festival Fenonmenal ปูพรมจัดเทศกาลพิเศษเป็นปรากฏการณ์ยอดนิยม นำร่องด้วยการทำโครงการ Thailand Festival Experience “วิจิตร 5 ภาค” กับ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย Limited Edition 2566 รอพบกันปลายปีนี้
4.Fight Fit&Firm จัดมหกรรมการขายแพกเกจ มวยไทย เลิฟเวอร์ ลักซ์พรีเรียนซ์ และ Stress-Free Exlusive tour เป็นการผ่อนคลายสุขภาพเต็มรูปแบบ
5.Film Fever นำเสนอแพกเกจ ฟิล์ม ซิตี้ทัวร์ หรือเส้นทางตามรอยซีรีย์และภาพยนตร์ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค กำลังทยอยเปิดเส้นทางครบทั้งประเทศ
นางสาวฐาปนีย์ยันยันว่า ได้วางแผนการสร้างสรรสินค้าและผลักดันไปสู่ “ผู้เที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่” ปลุกกระแสตลาดในประเทศเที่ยวเมืองไทย เจาะขายตลาดใหม่ 5 เทรนด์หลัก ได้แก่ เทรนด์ที่ 1 การท่องเที่ยวสายศรัทธา M&M World เจาะกลุ่มสายมูเตลู กับกลุ่ม YOLD หรือกลุ่มกึ่งเด็กกึ่งผู้ใหญ่ซึ่งมีกำลังซื้อสูง เทรนด์ที่ 2 การท่องเที่ยวเชิงกีฬาSport Tourism เจาะกลุ่มเจนเอ็กซ์ วาย และครอบครัว เทรนด์ที่ 3 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน -Sustainable Wellness เจาะกลุ่มกึ่งเด็กกึ่งผู้ใหญ่ YOLD กับผู้สูงวัยที่ตื่นตัวเดินทางอยู่ตลอดเวลา เทรนด์ที่ 4 การทำงานได้ท่องเที่ยวด้วย Workation เจาะกลุ่มเอ็กซ์คลูซีฟ กับพนักงานออฟฟิศ เทรนด์ที่ 5 Stylecation เจาะกลุ่มมหาเศรษฐี กับกลุ่มเพศภาพ LGBTQ
ททท.ในประเทศจะทำงานภายใต้แนวคิด THE LINK อันหมายถึงร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนปี 2566 กำลังจะเชื่อมโยงเครือข่ายท่องเที่ยวในประเทศเข้ากับตลาดต่างประเทศทั้งระยะใกล้ (shorthaul) และตลาดระยะไกล (longhaul) เพื่อทำให้ประเทศไทยเที่ยวได้ทุกวันทั้ง 365 วัน ด้วยแคมเปญ SpecialDeal และExclusive Deals All Year Round เน้นความพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อให้คนสนใจหันมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
